ผู้ประท้วงชาวชนบทเตรียมย้อมกรุงเทพเป็นสีแดง
Rural Protesters Prepare to Paint Bangkok Red
March 2, 2010
By Marwaan Macan-Markar
ที่มา – IPS
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑
ขอนแก่น – ศักดา อ้อพงษ์ อดีตข้าราชการ ด้วยภาพที่เปรียบเสมือนหัวหมู่ที่วุ่นไปกับการปลุกระดมในการเคลื่อนไหวการประท้วงของชาวรากหญ้า เพื่อประจันหน้ากับรัฐบาลชุดปัจจุบันของประเทศไทย
ก่อนที่เขาจะปลดเกษียณ ศักดา วัย ๗๘ ปี ซึ่งพำนักในบ้านหลังงามในตัวจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เคยเป็นข้าราชการที่มีบทบาทสำคัญในราชอาณาจักรแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ชีวิตข้าราชการของเขาเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นตำแหน่งหลักของกระทรวงมหาดไทย อันเป็นกระทรวงที่มีอำนาจมากที่สุด และอนุรักษ์นิยมมากที่สุดของรัฐบาลไทย
อำนาจของกระทรวงมหาดไทยครอบคลุมไปถึงการแต่งตั้งข้าราชการส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อทำการสอดส่องตัดตอนแนวความคิดด้านประชาธิปไตย โดยคอยยัดเยียดข่าวสารกระตุ้นให้เกิดความคลั่งชาติอย่างสุดโต่งมานานนับทศวรรษ
ตัวศักดาเองเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ มาถึงห้าปี รวมทั้งดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับสูงสุดของขอนแก่นมาถึงสองสมัย
แต่เวลานี้ อดีตผู้ว่าฯ ที่คล่องแคล่วผู้นี้ มองตัวเองว่าเป็นหนึ่งใน “กลุ่มผู้วางกลยุทธ์” ของจังหวัดนี้ โดยการจัดระเบียบของวาระในการประท้วงของกลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของประชาชนซึ่งสนับสนุนแนวทางการเมืองต่ออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการลี้ภัย
ศักดาให้สัมภาษณ์ในห้องนั่งเล่นของเขาโดยสวมเสื้อสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของผู้สนับสนุน นปช. ทั้งหมด เขาได้เปิดเผยว่า “สิ่งที่เราได้ร่วมกับกลุ่ม นปช. จะเป็นการเคลื่อนไหวพิเศษสุดซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ถือได้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรก และเป็นครั้งสำคัญ” “ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้เข้าร่วมกับเรา – ทั้งชาวนา พ่อค้า นักธุรกิจ ทนาย ตำรวจ หรือแม้แต่ข้าราชการอย่างผม”
เขาเปิดเผยต่อว่า “ประชาชนจากหลายๆจังหวัดจะเดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อร่วมการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง” “ผมจะไปร่วมชุมนุมด้วย ไม่ได้เป็นโฆษกบนเวทีหรอกนะ แต่ผมจะทำงานอยู่หลังเวที เพื่อความสำเร็จของเรา”
และบทบาทที่คล้ายผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของเสื้อแดงซึ่งเดินทางมาจากหลายที่ เขาเป็นคนต้นคิดในการวางแบบแผนเพื่อให้เสื้อแดงได้ยึดถือปฏิบัติ ส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการนั้นรวมถึงเอกสารเล่มกะทัดรัดสี่หน้า – “นปช.: แนวทางการปฏิบัติ” – ซึ่งได้แจกจ่ายให้กับครอบครัว นปช. ในจังหวัดขอนแก่น และกระจายไปตามหลายหมู่บ้านทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งมีอาชีพทำนา และทำไร่อ้อยนี้”
อุทัย คำทาบุรท แห่งหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ รับเอกสารแนะแนวด้วยความยินดี ซึ่งเป็นการแจ้งให้ชาวบ้านอย่างเขาได้ทราบถึงการณรงค์ต่อต้านของกลุ่ม นปช. เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนที่มีความคิดเห็นเหมือนกันได้ “ร่วมมือกัน และเรียกร้องให้ได้มาถึงประชาธิปไตย ซึ่งมีสถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ทุกคนจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้ประเทศไทยเป็น “นิติรัฐ” ภายใต้หลักนิติธรรม”
เนื้อหาในเอกสารแนะแนวมีต่อว่า “ประชาชนที่มีความเห็นต่าง หรือขัดแย้งกันนั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นศัตรูกัน” “ผู้มีความคิดเห็นเหมือนกันควรปฏิบัติต่อกันด้วยความเอื้อเฟื้อ และด้วยความรัก เราจะต้องมีความเห็นอกเห็นใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
และคำพูดเหล่านี้จะได้พิสูจน์กันให้เห็นในวันที่ ๑๒ มีนาคมที่ใกล้จะถึงนี้ ทั้ง อุทัย และชาวบ้านอื่นๆ จากหมู่บ้านของเขา และจากหมู่บ้านใกล้เคียงจะเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพเพื่อร่วมการชุมนุม ในสิ่งที่แกนนำ นปช. ได้สัญญาว่า จะเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของมวลชนนับ “ล้าน”
วันประท้วงซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมมากถึงขนาดนั้น –ก่อนหน้านี้ นปช. เคยรวบรวมผู้ประท้วงเสื้อแดงในกรุงเทพได้มากที่สุดแค่เพียงมากกว่าแสนคนนิดหน่อยเมื่อต้นปีที่แล้ว – เป็นวันที่ตรงกับช่วงโรงเรียนปิดเทอมในกลางเดือนมีนาคม – “เป็นช่วงตรงกับวันปิดเทอม เด็กๆ ไม่ต้องไปโรงเรียน พ่อแม่จะได้ร่วมประท้วงโดยไม่ต้องกังวลมากนัก” นี่เป็นคำพูดของบิดาคนหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพทำนากล่าวไว้
การข่มขวัญของกลุ่มเสื้อแดงซึ่งจะเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพ สร้างความตื่นเต้นให้แม้แต่อดีตสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ซึ่งเป็นพรรคต้องห้าม บางคนในระหว่างการกลับมารวมตัวกันใหม่เมื่อสองวันก่อนของอดีตสมาชิก พคท. ในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งใกล้เขตชายแดนลาว-ไทยนั้น แหล่งข่าวซึ่งร่วมในการประชุมครั้งนี้กล่าวว่า พคท. ได้มีการเสนอในการ “ช่วยร่วมจัดระบบ” ให้กับแกนนำ นปช. คนหนึ่ง
หากแกนนำ นปช. คนนั้นยอมรับข้อเสนอจากอดีตเจ้าหน้าที่ พคท. ต้องห้ามนั้น จะเป็นการเพิ่มขยายแนวรบ ซึ่งการชุมนุมจะเป็นการรวมทั้งกลุ่มการเมือง และกลุ่มทางสังคมเข้าด้วยกันภายใต้ชื่อ นปช. เพื่อโค่นรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เข้ามามีอำนาจเมื่อปีที่แล้วจากวิธีแอบตกลงอย่างลับๆ กับกองทัพอันทรงแสนยานุภาพของประเทศ แทนที่จะเข้ามามีอำนาจจากคะแนนเสียงของประชาชนส่วนมาก
เสียงสนับสนุนตัวจริงเสียงจริงของ นปช. ส่วนใหญ่มาจากมวลชนจากจังหวัดภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่า ๓๐ จังหวัด ประชาชนเหล่านี้ต่างโกรธแค้นที่ “พ่อ” ทักษิณในทางการเมืองของพวกเขาถูกโค่นอำนาจลง ทักษิณได้รับเสียงสนุนอย่างท่วมท้นจากชาวชนบทซึ่งมีอาชีพทำนาในดินแดนใจกลางของภูมิภาค เนื่องจากนโยบายที่ทักษิณได้วางไว้สำหรับคนยากจนในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ จนถึงกลางปี ๒๕๔๙
รัฐบาลทักษิณ ซึ่งได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นตามกติกาการเลือกตั้งถึงสองสมัย ถูกกองทัพใช้กำลังก่อการรัฐประหารช่วงชิงอำนาจเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๙ เป็นการปล้นอำนาจครั้งที่ ๑๘ ของราชอาณาจักร รัฐบาลทหารไม่รอให้เสียเวลา รีบตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบ และทำการทุจริตต่อทักษิณในทันที ทักษิณซึ่งเป็นมหาเศรษฐีจากธุรกิจโทรคมนาคมมาก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ชะตากรรมในทรัพย์สิน ๗๖,๖๐๐ ล้านบาทของทักษิณได้ถูกตัดสินเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ เมื่อศาลอาญาฯมีคำพิพากษาในคดีประวัติศาสตร์ว่า ทักษิณกระทำความผิดที่ร่ำรวยขึ้นมาโดยใช้อำนาจในทางมิชอบในขณะดำรงตำแหน่งนายก และผลประโยชน์ทับซ้อนอันเป็นที่แน่ชัด
คำตัดสินหมายถึงรัฐบาลสามารถยึดทรัพย์สินซึ่งถูกอายัดไว้แล้วของทักษิณจำนวน ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท บรรยากาศอึมครึมแห่งความไม่แน่นอนในทรัพย์สินที่เหลืออีก ๓๖,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งศาลกล่าวว่า เป็นของทักษิณก่อนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ผู้สนับสนุน นปช. ซึ่งไอพีเอสได้ไปสัมภาษณ์ต่างไม่ยอมรับในคำตัดสินนั้น โดยกล่าวว่า นี่เป็นเพียงการตัดสินของศาลแค่ยกแรก ยังมีคดีอื่นอีกเรียงตามมาเป็นหางว่าวต่อทักษิณ และพรรคพวกของเขานับตั้งแต่การทำรัฐประหารในปี ๒๕๔๙ ทักษิณซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในขณะนี้เพื่อเลี่ยงโทษจำคุกสองปีในคดีทุจริตอื่น เป็นการสะท้อนทัศนคติแนวเดียวกัน
นักจัดรายการของสถานีวิทยุชุมชนฝ่ายสนับสนุน นปช. กล่าวว่า คำตัดสินคาดว่าจะเห็นคนเสื้อแดง “ที่โกรธแค้น” มุ่งหน้าเข้าร่วมการประท้วงมากขึ้น ซึ่งจะมีขึ้นในกรุงเทพตั้งแต่วันที่ ๑๒-๑๔ มีนาคม
หนึ่งในเสื้อแดงอย่างเช่น วนิดา พิมพ์ดีด มองการฟ้องคดีทักษิณ และพรรคพวกของทักษิณว่า เป็นการยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “มีแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นแหละที่โดนลากตัวขึ้นศาล โดยหาว่ากระทำความผิด แต่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นพวกนักการเมือง และพวกมีอิทธิพลที่ทำผิดกฎหมาย แต่กลับรอดตัวไปได้”
ชาวไร่ปศุสัตว์วัย ๔๘ ปีกล่าวว่า “เราทั้งหมดตกเป็นเหยื่อของระบบที่ไม่มีความเป็นธรรมนี้” เธอยังชี้ให้เห็นว่า การทำรัฐประหาร และการตัดสินของศาลอันไม่ชอบมาพากลในเดือนธันวาคม ๒๕๕๑ – ที่ได้สั่งยุบพรรคนิยมทักษิณซึ่งได้รับการเลือกตั้งให้เข้ามาบริหารประเทศ – อันหมายถึงว่า “ขาดความเคารพต่อรัฐบาล ซึ่งเราผู้ซึ่งยากจนได้ลงคะแนนเลือกกันมา”
เธอเปิดเผยว่า เป้าหมายของเสื้อแดงในการประท้วงที่ใกล้จะมาถึงนี้ คาดว่าจะเป็นใครก็ตามที่ซึ่ง “ได้รับประโยชน์จากการทำให้พวกเรา ต้องตกเป็นเหยื่อของระบบการเมือง”
หนึ่งในบัญชีรายชื่อ “ศัตรูของประชาธิปไตย” ที่นักเคลื่อนไหว นปช. ของจังหวัดนี้ และจังหวัดอุดรธานีที่อยู่ใกล้เคียงใช้เรียกนั้น คือตัวจักรทางการเมืองที่มีฐานในกรุงเทพ รวมไปถึงศักดินาที่ได้รับการปกป้อง ข้าราชการหัวโบราณ และกองทัพที่ทรงพลัง
March for Democracy and Justice on March 14th .
เมืองไทยพึ่งใครไม่ได้แล้วอย่ารอความฉิบหายมาทำร้า่้้้้้ยเมืองไทยจนไม่เหลืออะไรเลย ถึงเวลาแล้วพวกเราต้องช่วยกัน
ผมและเพื่อนๆจะร่วมเข้าร่วมชุมนุมด้วยอย่างแน่นอน นี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมและเพื่อนๆบางคนที่จะเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองเลยน๊ะครับ
คลื่นมหาเสื้อแดงงานนี้…เลิกเกรงใจพวกมันได้แล้ว
ถ้ามากันล้านคน ถือลูกโป่ง ถือถุง เตรียมการขับถ่าย(2ลิตร ต่อคน ต่อวัน)
เตรียม(พลังห่อขี้ มหาศาล)ไว้ใช้พร้อมเป็นอาวุธ…เวลาพวกมันทำมิดีมิร้ายโหด
ว่าไง?
เสื้อแดงจะมีจำนวนกี่ล้านคนมันก็ไม่ได้สำคัญต่อมันหรอก เพราะมันไม่ได้สนใจหรือใส่ใจต่อประชาชนหรือต่อใคร ๆ นอกจากชัยชนะต่อทักษิณเท่านั้น ทำอย่างไรจะกำจัดทักษิณให้ได้ ไม่ว่าต่อชีวิต ต่อชื่อเสียง ของทักษิณ มันอาจจะไว้ชีวิตทักษิณก็ได้ ถ้าประชาชนทั้งหมดพร้อมใจกันเกลียดชังทักษิณ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะมันปกครองประเทศมาหลายสิบปี มันรู้สึกว่าประชาชนรักมันมาก พอทักษิณมาครองประเทศ ประชาชนกลับรักทักษิณมากกว่ามัน ต่อมอิจฉามันพองจนคับอก ถ้าทักษิณไม่ตาย ต่อมอิจฉาอาจต้องฆ่ามันตาย มันจึงต้องกำจัดทักษิณให้เร็วที่สุด
นอนแซ่วอยู่ในโรงพยาบาลตั้งหลายเดือน มีคนเข้าแถวไปเยี่ยม นับแล้วได้ 2 ล้านกว่า น้อยกว่าคนที่ลงชื่อถวายฎีกาให้ทักษิณภายใน 1 เดือน โฮ ๆ ๆ ๆ อยากตายจริง ๆ
การชุมนุมครั้งนี้มีจุดจบที่การพ่ายแพ้และล้มตายของเสื้อแดงจำนวนมาก ตายยิ่งกว่าการชุมนุมของประชาชนพม่าเสียอีก เชื่อสิ เพราะแน่ใจในความชั่วช้าสารเลวของพวกมัน พวกที่ปากเต็มไปด้วยคุณธรรม แต่จิตใจเป็นปีศาจ
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในขั้นตอนต่อไปคือ ประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเทศ
1.ภาคเหนือกับอีสาน บางส่วนของภาคเหนือตอนล่าง บางส่วนของภาคตะวันออกติดเขมรทั้งหมด จะรวมตัวกันเป็นประเทศไทยเสรี ปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย ไม่มีกษัตริย์ แต่จะมีผู้นำคนเดียวที่ถูกเลือกเป็นประธานาธิบดีครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่าชีวิตจะหาไม่
2.ภาคกลางทั้งหมด จะเป็นประเทศไทยของพวกเสื้อเหลืองที่ปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
3. สี่จังหวัดภาคใต้จะเป็นประเทศอิสลาม
จะเกิดขึ้นใน 2-3 ปีที่จะถึงนี่แหละ
อย่าลืมว่า ในภาคกลางนั้นก็มีเสื้อแดงติดอยู่เป็นจำนวนมาก พวกนี้จะเป็นหอกข้างแคร่ทิ่มแทงระบอบกษัตริย์ตลอดไป จนกว่าระบอบเดิมจะถูกล้ม และรวมเป็นประเทศเดียวกันอีกครั้ง
พวกของประเทศที่2นี่่ก็ขึ้นอยู่กับคนคนเดียวครับ อยู่กับว่าเขาจะอยู่นานขนาดไหน
สันดานพวกนี้คือมันจะคอยหาคนมาเหยียบย่ำเพื่อเชิดชูตนเอง
พวกที่คิดว่าตัวเองอยู่กลางๆแล้วเหยียบ1หริอ3ปัจจุบันอยู่ระวังหน่อยก็ดีนะ
ถ้าแยกจริงอาจเป็น
คราวของคุณ
สถานการณ์ในแอเรียสามอาจจะดีขึ้นครับ…
ถ้าคีนอดีตคาร์บอนก้อนใหญ่สีดอกอัณชัณที่ถูกแบ่งเป็นสามก้อนให้เจ้าของไป
The tree of liberty must be refreshed from time to time with the blood of patriots and tyrants.
Thomas Jefferson.
ธรรมะดา
ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเทศ 3 ระบอบ
เลิกอิจฉา เลิกทำร้า่้้้้้ย เลิกเหยียบย่ำ เลิกทิ่มแทง เลิก2มาต เลิกโหด เลิกวางยา เลิกฆ่า เลิก…
ระบอบอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ระบอบอำมาตย์
พวกบ้าสติแตกคิดแยกแผ่นดิน คงยากหน่อยหล่ะ เพราะปัญญาชนส่วนใหญ่เข้าถึงกลยุทธ์ของพวกคุณได้ดี และตาไม่ได้บอดหูไม่หนวก ใครโกงใครกินเห็นกันอยู่ พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ขอแช่งให้ฟ้ากระหน่ำน้ำทะลัก 2009 ระบาดตายให้หมด
ไม่เอาระบบทักษิณ
ผลงานทั้งหมดที่เห็นทีการดำรงตำแหน่ง คือเรื่องที่อยู่อาศัย บ้าน(กระต๊อบเก็บของ) 1 หลัง
Obviously. People from up country, even some of these are the poors knowing and respecting Democracy and justice, and will come to fight.
It s a shames, some of even professors, young graduated people, yellows people don t repect the facts, justices and democracy from majorities elected parties, keep criticize on royality and power of money.
No one can enough money to buy million of
people minds. It s a believe.
No one can
ไอ้มาร์คและคณะ เอ็งเป็นผู้บริหารหมดความชอบธรรมจากประชาชนแล้ว จงคืนอำนาจให้ประชาชนซะ ยุบสภา นำพรบ.ปี40 มาใช้ เรียกร้องผู้บริหารดีๆที่ประชาชนต้องการขึ้นบริหารประเทศ
อยากให้คนไทยกลับมารักกัน อยากให้บ้านเมืองสงบสุขซะที