จินตนาการเพ้อเจ้อของ “ปฏิญญาดูไบ”

The fantastic “Dubai plan”

November 27, 2009
ที่มา – Political Prisoners in Thailand
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

ที่แน่ชัดคือพันธมิตรได้สร้างเรื่องตอแหลที่เรียกกันว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” ในปี ๒๕๔๙ เพื่อป้ายสีทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยว่า จะประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบรรดาพันธมิตรเสื้อเหลือง ที่จะสร้างภาพในการต่อสู้กับทักษิณว่า เป็นการต่อสู้เพื่อกษัตริย์

ขณะนี้ ด้วยอภินันทนาการจากสุริยะใส กตะศิลา พันธมิตร – หรือพรรคการเมืองใหม่ใช่ไหม – เกิดสมองใสคิดถึงแผนการใหม่ของทักษิณ โดยครั้งนี้จะเป็นการล้มล้างรัฐบาลคลั่งเจ้า ซึ่งนำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์

จากเนชั่น (วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒: “สุริยะใส: ทักษิณวางแผนจะสร้างความวุ่นวายกลางเมือง และทำรัฐประหาร” ซึ่งหมายถึง “การกล่าวหาเรื่องปฏิญญาดูไบ” เพื่อนำทักษิณกลับมาสู่อำนาจโดยการสร้างความรุนแรง สุริยะใสว่าที่เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) เปิดเผยว่า “บันได ๕ ขั้น” และเรียกแผนการนี้ว่า “ปฏิญญาดูไบ”

ที่จริงแล้ว “ปฏิญญา” นี่ ต้องมีการออกประกาศต่อสาธารณะไม่ใช่หรือ

เป็นที่แน่ชัดว่าพรรคเพื่อไทยและนปช. ได้ปล่อยให้แผนรั่วไปถึงหูศัตรูคู่แค้นพันธมิตร สุริยะใสอ้างว่า เสื้อแดงได้บินไปพบกับทักษิณที่ดูไบเมื่อไม่นานมานี้ – ทำไมไม่ไปเพียงแค่ที่กัมพูชาล่ะ สุริยะใสกล่าวต่อว่า พวกเขากลับมาด้วยแผนบันได ๕ ขั้น เพื่อสร้าง “ความวุ่นวายกลางเมือง” เพื่อนำไปสู่ “การทำรัฐประหารของกองทัพ”

สุริยะใส กตะศิลากล่าวว่า ปฏิญญา ขั้นแรกเป็น “ม็อบนาฬิกาปลุก” ซึ่ง “นัดหมายวันที่จะชุมชนมวลชนเสื้อแดงมากกว่าแสนคน” ตามที่สุริยะใสกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้รับเงินในการ “เคลื่อนไหวมวลชน ๑๐,๐๐๐ – ๒๐,๐๐๐ คน เพื่อหลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เบนความสนใจจากการชุมนุมมวลชน” และกล่าวต่อว่า “เพื่อรอสัญญาณจากนายใหญ่ให้เริ่มก่อความวุ่นวาย”

ขั้นที่ ๒ เป็นการ “กดดันนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ยุบสภาโดยทำการชุมนุมแบบดาวกระจาย เพื่อล้อมสถานที่ราชการหลายๆแห่ง เช่น ทำเนียบ รัฐสภา กองบัญชาการกองทัพบก สถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ และเอเอสทีวี”

โปรดสังเกตให้ดีว่าขณะนี้ เอเอสทีวีกลายเป็นองค์กรของรัฐไปแล้ว อาจจะไร้ประสิทธิภาพพอๆกันกับบรรณาธิการของเนชั่น

ในขั้นนี้อาจใช้แท็กซี่ปิดกั้น “โดยการจอดล็อกเกียร์ทิ้งไว้ขวางถนนสายหลักๆ เพื่อขัดขวางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในการส่งกำลังทหาร หรือกำลังตำรวจเข้ารักษาความมั่นคง” สุริยะใสกล่าวว่า จะเป็นการ “ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต” และรวมไปถึง “เกิดสูญญากาศกับอำนาจของรัฐ”

มีการพูดถึงกันอย่างมากเกี่ยวกับ “อำนาจรัฐ” ว่าการที่จราจรเป็นอัมพาต จะก่อให้เกิดสูญญากาศดังกล่าว ลองเดาความหมายดู หมายถึงว่า ทุกๆศุกร์ปลายเดือนจะต้องเกิดสูญญากาศของอำนาจรัฐน่ะซิ

ขั้นที่ ๓ “จะก่อความปั่นป่วนในเมือง ถ้าหากนายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภา โดยวางแผนที่จะวางระเบิด ลอบสังหารบุคคลสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ทักษิณ ขึ้นบัญชีดำกว่า ๓00 คน..บุคคลดังกล่าว เช่น แกนนำพันธมิตร กรรมการ คตส. ปปช. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นักวิชาการ นักการเมืองบางคน และสื่อมวลชนบางส่วน”

ขั้นที่ ๔ ฟังดูเหมือนบทภาพยนตร์ซึ่งต้องใช้ดารานำอย่าง เจสัน สเตทแธม เนื่องจากเกี่ยวข้องไม่เพียงแต่ “การขับไล่รัฐบาล” แต่ยังรวมไปถึงการยึด “ทรัพย์สิน ๗๖,๐๐๐ ล้านบาทของทักษิณ ที่กำลังถูก “อายัด” อยู่ในธนาคารของไทยต่างๆ และโค่นอำมาตยาธิปไตย”

สุริยะใสกล่าวว่าเรื่องนี้ “เป็นเรื่องจำเป็น..เพราะทักษิณรู้ว่าลำพังการเปลี่ยนแต่รัฐบาลอย่างเดียวไม่สามารถนำเขากลับมาสู่อำนาจได้ ทักษิณต้องหาทางล้างมลทินทางกฎหมายทั้งหมด” โดยพุ่งเป้าหมายไปที่ “ประธานองคมนตรี เปรม ติณสูลานนท์…ผู้เป็นตัวแทนของอำมาตยาธิปไตย ซึ่ง (ทักษิณ) จะต้องทำลายทั้งในทางลับ และอย่างเปิดเผย…..” การกำจัดเปรมหมายถึงว่า กองทัพจะต้องเลือกข้างเพื่อ “ไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดของทักษิณ ภายใต้ปฎิญญาดังกล่าว เป็นการยั่วยุให้เกิดการทำรัฐประหารของกองทัพ” ถ้าไม่เกิดรัฐประหาร ทักษิณ “อาจยังคงทำลายความมั่นคงของชาติโดยการหาเรื่องให้มีการเผชิญหน้ากัน มีการชุมนุม และเกิดความวุ่นวายกลางเมือง…”

โฆษกของพันธมิตร และพรรคการเมืองใหม่กล่าวว่า “ขั้นที่ ๕ จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หลังจากการทำรัฐประหาร ทักษิณจะรับคำแนะนำจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และพร้อมที่จะต่อรองเพื่อการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และหาทางนิรโทษกรรมให้กับตัวเอง และเครือข่าย”

ดูเหมือนว่าสุริยะใสจัดการปล่อยข่าวเรื่อง “ปฏิญญา” ในเวลาที่พอเหมาะ เสื้อแดงกำลังจะชุมนุมในกรุงเทพ มีข่าวลือเรื่องต่างชาติจะเข้าร่วมชุมนุม เสื้อแดงวางแผนการชุมนุมตามสี่แยกสำคัญต่างๆ เสื้อแดงที่ถูกกล่าวหาว่า “พกพา” อาวุธ มีการกล่าวหาว่า เสื้อแดงคุกคามนายกและรัฐบาล ฟังดูราวกับว่า กำลังเตรียมสร้างความรุนแรง แต่เป็นโชคร้ายของสุริยะใส ที่เสื้อแดง ที่เห็นชัดว่าสมคบคิดกับทักษิณ ได้ประกาศยกเลิกการชุมนุม

สุริยะใสคงผิดหวังแน่ๆเลย ถ้าเสื้อแดงเลือกทางที่จะไม่สร้างความรุนแรงในระหว่างการชุมนุมตามแผน “ปฎิญญาดูไบ” ก็คล้ายกับตอนเกิดเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ สุริยะใสอาจปลุกผีเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ภายหลังก็ได้ แน่นอน เรื่องอะไรที่ฟังดูประหลาด และรุนแรงมากเท่าไร ฝ่ายสนับสนุนพันธมิตรยิ่งชื่นชอบมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากพวกนี้เชื่อในแผนการ และการกล่าวหาทั้งหมดที่แกนนำพันธมิตรสร้างขึ้นมา แม้จะไม่มีหลักฐานใดๆก็ตาม