ข้ามไปยังเนื้อหา

หลังรัชสมัยองค์กษัตริย์ภูมิพล

วันอังคาร 27 ตุลาคม 2009

After Bhumibol?
By Gwynne Dyer
October 25, 2009
ที่มา – Gulf Daily News
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

ในประเทศไทย ประชาชนต้องโดนติดคุกหัวโตถ้าวิจารณ์พระราชวงศ์ สื่อไทยจึงต้องปิดปากเงียบต่อคำถามที่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากสิ้นรัชกาลกษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดช

ขณะนี้กษัตริย์พระชนมายุ ๘๑ พรรษา ได้เข้ารับรักษาพระวรกายในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว จึงมีข่าวลือสะพัดด้วยความหวาดกลัวว่า พระองค์ทรงสิ้นแล้ว เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเพียงวันเดียวตลาดหุ้นกรุงเทพดิ่งลงร้อยละ ๘ จากข่าวลือที่ว่า พระสุขภาพของพระองค์ทรุดลงมากกว่าที่ทางพระราชวังได้แถลงการณ์

กษัตริย์ภูมิพลทรงครองราชย์มายาวนานถึง ๖๓ ปี และทรงเป็นเคารพโดยทั่วไป ประเทศไทยตกอยู่ในวิกฤติที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เคยมีมาในทางการเมืองถึง ๓ ปี ตั้งแต่เป็นประเทศประชาธิปไตยแบบลุ่มๆดอนๆมามากกว่าสองทศวรรษ และนับได้ว่ากษัตริย์ทรงเป็นปัจจัยสำหรับการรวมศูนย์ใจและความมั่นคงที่ยังคงเหลืออยู่ การสิ้นสุดรัชกาลของพระองค์ย่อมทำให้เรื่องต่างๆยิ่งเลวร้ายลง

วิกฤติดังกล่าวมีผลเนื่องมาจากประชาธิปไตย ประเทศไทยได้เริ่มเป็นประเทศกึ่งพัฒนา นับตั้งแต่กษัตริย์ภูมิพลขี้นครองราชย์ รายได้ถัวเฉลี่ยของประชาชนได้เพิ่มขึ้นสี่สิบเท่า แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงอาศัยในชนบทและค่อนข้างยากจน คะแนนเสียงของพวกเขาได้ถูกซื้อโดยนักการเมืองท้องถิ่นที่มีอิทธิพล และส่งผ่านต่อไปยังพรรคการเมืองใดๆก็ตามที่มีพื้นฐานเป็นชาวกรุงที่จ่ายเงินให้มากที่สุด แต่มิได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป

นับตั้งแต่ประชาชนชาวชนบทจำนวนมากทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับความรู้และมีความเข้าใจมากขึ้น พวกเขาเริ่มใช้คะแนนเสียงสนับสนุนนักการเมืองต่างๆที่สัญญาว่า จะรักษาผลประโยชน์ของพวกเขา ไม่ใช่เอาแต่ไปปรนเปรอให้กับพวกศักดินาที่มีฐานะในกรุงเทพ ในปี ๒๕๔๔ พวกเขาได้เลือกนักการเมืองอันเป็นที่นิยม และมีพื้นฐานที่ถ่อมตน และเขาคนนั้นคือ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

ทักษิณสร้างฐานะขึ้นมาจากธุรกิจโทรคมนาคม และถ้าเขาไม่ร่ำรวย เขาอาจจะไม่ชนะการเลือกตั้งก็ได้ แต่เขาได้บริหารประเทศเพื่อผลประโยชน์ของคนยากจน ในปี ๒๕๔๘ เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอีกครั้งด้วยคะแนนเสียงข้างมากที่เพิ่มขี้นกว่าครั้งแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราปรารถนาในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตย สำหรับคนยากจนที่มีจำนวนมากกว่าคนร่ำรวย

แต่เป็นเรื่องที่คาดหมายได้ว่า จะต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากศักดินาอำมาตย์หัวโบราณ ซึ่งมาในแนวของพวกพันธมิตร อันเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวของเสื้อเหลืองมีเป้าหมายเพื่อจะล้มเลิกความเป็นประชาธิปไตย พวกเขาสร้างความยั่วยุเมื่อประจันหน้าบนท้องถนนกับฝ่ายสนับสนุนทักษิณ (ซึ่งแต่งสีแดง) พันธมิตรสร้างข้อแก้ตัวให้กับกองทัพเพื่อเข้ายึดอำนาจโดยการทำรัฐประหารในปี ๒๕๔๙ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะวิกฤติอย่างถาวร

ผู้สนับสนุนพันธมิตรซึ่งเป็นคนกรุง และชนชั้นกลางเข้ายึดท้องถนนในเมืองเหลวง แม้กระทั่งกระทำการล้มรัฐบาลที่พวกเขาไม่ต้องการ แต่พันธมิตรไม่สามารถบังคับให้ชาวชนบทส่วนใหญ่เลิกความภักดีที่เขามีอยู่ได้ ประเทศถูกแบ่งแยกอย่างน่าอันตราย และการเมืองกลายเป็นอัมพาต และคนไทยหลายคนเชื่อว่า มีแต่กษัตริย์ภูมิพลพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะทรงยึดเหนี่ยวประเทศไว้ได้

อาจจะใช่ แม้ว่าจะมีความสงสัยว่าพระองค์ทรงสนับสนุนให้ทำรัฐประหารในปี ๒๔๔๙ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ทรงยอมรับเท่านั้น (ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล อดีตนักข่าวที่มีชื่อเสียง ได้ถูกตัดสินจำคุกถึง ๑๘ ปีหลังจากที่เธอได้ทำการปราศรัยเป็นนัยว่า กษัตริย์ทรงสนับสนุนการทำรัฐประหาร) อย่างไรก็ดี การสิ้นรัชกาลนั้นย่อมทำให้วิกฤติยิ่งตกหนักมากขึ้น เนื่องจากองค์รัชทายาทที่ดูเหมือนจะสืบสันตติวงศ์นั้นไม่ทรงเป็นที่รัก

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณทรงมีชีวิตส่วนพระองค์ที่โลดโผน รวมถึงการอภิเษกสมรสถึงสามครั้ง แทบจะไม่ได้เปลี่ยนการวางพระองค์ในระยะเวลา ๕๗ ปีที่ทรงอยู่ภายใต้เงาของพระราชบิดา ในเวลาที่ปกติ พระองค์อาจจะเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้อย่างสมบูรณ์ แต่คนไทยได้ตัดสินใจแล้ว จะยุติธรรมหรือไม่ก็ตามที่ว่า ความภักดีที่จะมอบให้พระองค์นั้นมีไม่มากนัก

เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณทรงไม่ได้รับความเคารพเยี่ยงพระราชบิดา ซึ่งทรงมีบทบาทในการสมานความร้าวฉานและสร้างความสงบ และได้มีการเสนออย่างเงียบๆว่าพระขนิษฐา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร อาจจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ดีกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากแม้ว่ากฎหมายไทยได้เปลี่ยนให้ผู้หญิงขี้นครองราชบัลลังก์ได้ และรัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้สิทธิการตัดสินใจการสืบสันตติวงศ์ตกในมือขององคมนตรีทั้ง ๑๙ คน

พวกเขาคงไม่เปลี่ยนแปลงในเรื่ององค์รัชทายาท แต่จากความจริงแท้ที่ว่า อาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้ ซึ่งยิ่งสร้างความไม่แน่นอนและโอกาสที่จะเกิดปฏิกิริยาต่อความขัดแย้ง

การออกแถลงการณ์พระอาการของกษัตริย์ของสำนักพระราชวังเกือบจะทุกวัน ล้วนแล้วแต่สร้างความหวัง แต่การอ้างถึงแต่เรื่อง “พระปับผาสะ (ปอด) อักเสบ” อันเป็นคำพูดที่สวยหรูสำหรับการเรียกโรคนิวมอเนีย ซึ่งเป็นโรคที่มีโอกาสจะคร่าชีวิตคนในวัยชรา จึงเป็นการสมควรแล้วที่พสกนิกรชาวไทยจะมีความวิตกกังวล ขอทรงพระเจริญ

39 ความเห็น leave one →
  1. Lone Cat permalink
    วันอังคาร 27 ตุลาคม 2009 11:16 น.

    จริงๆ แล้ว กระแสข่าวเกี่ยวกับฟ้าชาย น่าจะเป็นแผนของไอ้ขันทีสี่เสา ในการยึดอำนาจปกครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จ ภายใต้ตำแหน่ง ผู้สำเร็จราชการ

    เรื่องนี้ต้องฟังหลายๆ แหล่งด้วยไม่งั้นเข้าทางป๋าหมด

    • SKZ permalink
      วันพุธ 13 มกราคม 2010 01:07 น.

      “…การที่จะให้งานประสานกันนั้นหลักสำคัญอยู่ว่า ทุกฝ่ายจะต้องไม่แบ่งแยกกัน ไม่แย่งประโยชน์ไม่แย่งความชอบกัน แต่ละฝ่ายแต่ละคนต้องทำงานด้วยบริสุทธิ์ใจ มุ่งหวังผลสำเร็จในการงานเป็นใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งอื่น…”พระราชดำรัส

  2. วันอังคาร 27 ตุลาคม 2009 16:13 น.

    ตอนนี้ผมยังมองไม่ออกเลยว่าประเทศไทยจะวิ่งไปที่จุดไหน … ผมเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากแต่อยากให้คนไทยเท่าเทียมกันทุกๆ คน … มีแต่พวกศักดินาและอำมาตย์นี่แหละที่คอยฉุดให้ผลประโยชน์อยู่ในมือพวกเขา แล้วก็กระทบต่อพวกเราทุกคน

    เมื่อไหร่จะได้เห็นคนกล้าเปลี่ยนแปลงประเทศแบบทักศินอีก?

  3. carbom permalink
    วันพุธ 28 ตุลาคม 2009 02:14 น.

    อย่าตัดสินเขาถ้าเราไม่รู้ ความคิดแตกต่างได้แต่อย่าแตกแยก จะสีไหนก็คนไทยด้วยกัน
    ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย รักกันไว้เถิดพี่น้อง

  4. carbom permalink
    วันพุธ 28 ตุลาคม 2009 02:20 น.

    อย่าดึงฟ้าต่ำ เรื่องเบื้องสูงไม่สมควรนำมาวิจารณ์

  5. joojee permalink
    วันพุธ 28 ตุลาคม 2009 02:30 น.

    ไม่มีใครดึงฟ้าลงมา มันลงมาเอง
    ส่วนรากหญ้าก็น่าจะยืดตัวไห้สูงเท่ากันบ้าง
    คนเหมือนกัน รักตัวเองก่อนที่จะรักคนอื่น
    ไม่ได้เป็นหนี้ไครและไม่มีไครเป็นหนี้เรา

  6. วันพุธ 28 ตุลาคม 2009 04:17 น.

    ต้องเศร้าเสียใจเป็นธรรมดา คนเราผูกพันกันมา

    ไม่ว่าใครล้มหายตายจากก็ต้องเสียใจ คนรักพระองค์เยอะ

    ในทางกลับกันก็มีคนตั้งคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ต่อพระองค์เยอะเช่นกัน

    หวังว่าคงไม่ใช่ในเร็ววัน แต่ถ้าหวังว่าไม่อยากให้มันเกิดขึ้นคงเป็นไปไม่ได้

    ต่อสู้กันไปครับทางความคิด ลัทธิความเชื่อห้ามกันไม่ได้หรอกครับ

    ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก จะบอกว่าในประเทศนี้มี ๒ ฝ่ายคือมีฝ่ายทรยศ มีฝ่ายรักชาติ

    สุดท้ายใครเป็นฝ่ายทรยศ ใครเป็นฝ่ายรักชาติ ไม่มีใครตอบได้หรอกครับ

    ต่อสู้กันจนตกผลึกนั่นแหละครับ พวกท่านไม่ว่าฝ่ายใด ก็จะได้เป็นผู้ที่ถูกจารึกไว้ว่า

    ได้ทำการเมืองภาคประชาชนอย่างแท้จริง และผลมันก็จะเกิดกับลูกหลานของเรา

    หากให้คนไทยเข้าแถวในเรื่องรักชาติผมเชื่อว่าทุกคนอยู่หัวแถวหมดครับ

    และการดูถูกคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีแต่อย่างใด ไม่ว่าชาติใหนครับ

    จะเจริญก็ต้องอาศัยคนในชาติ ดูถูกกันเสียแล้วจะหาความเจริญได้จากใคร?

  7. วันพุธ 28 ตุลาคม 2009 08:55 น.

    รักกันไว้ไม่เสียหายหรอกครับ อย่าแบ่งอย่าแยกกันเลยเอาเวลาไปทำมาหากินกันเถอะ อีกไม่นานเราทุกคนก็ต้องตายจากกันไปหมด

  8. วันพุธ 28 ตุลาคม 2009 12:53 น.

    ประเทศยังต้องคงระบอบกษัตรยิ์ไว้แต่ต้องไม่แทรกแซงทุกๆอำนาจ ปล่อยให้ประชาชนปกครองกันเองเหมือน นาๆอารยะประเทศเช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น มาเลเซีย กัมพูชา เป็นต้น.

  9. ความหวังที่ปลายอุโมงค์ permalink
    วันพุธ 28 ตุลาคม 2009 20:05 น.

    คิดถึงพระปิยะมหาราช ผู้ประกาศเลิกทาส ทำให้ระลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณไม่เสื่อมคลาย สิ่งที่หวังสำหรับคนไทยทุกคนในประเทศไทยตอนนี้ ขอประชาธิปไตยคืนอำนาจสู่คนไทยอย่างแท้จริง เป็นความหวังที่จะได้รับการสรรเสริญจากทุกหมู่เหล่า และนำความสงบสู่สยาม ไชโย

    • joojee permalink
      วันจันทร์ 16 พฤศจิกายน 2009 09:39 น.

      แล้วไครวะที่เอาคนมาเป็นทาส

    • นักรบข้าวเหนียว permalink
      วันพฤหัสบดี 25 มีนาคม 2010 12:30 น.

      มันเลิกทาส เพราะลด อำนาจ ของใครละ ลอง ศึกษา นะ

  10. นกฮูก permalink
    วันพฤหัสบดี 29 ตุลาคม 2009 10:09 น.

    ขอให้หมดระบบแบ่งชนชั้นมึงสูงกูต่ำ ยิ่งเร็วยิ่งดี เพื่ออนาคตสดใสของลูกหลานไทย

  11. นางในหัวใจเธอ permalink
    วันพฤหัสบดี 29 ตุลาคม 2009 23:31 น.

    มันหยั่งรากฝังลึก หมดยากระบบนี้โดยส่วนใหญ่พวกนี้ทำงานหรือทำธุรกิจไม่เป็น
    เป็นแต่คอย ตบทรัพย์และเรียกค่าคุ้มครอง แต่ขอให้มีปฏิหารเพราะเราอยากวิจารย์ เหมือนประชาชนของอังกฤษ อเมริกา ประเทศทีี่มันประชาธิปไตยจริง ๆ งะ (ของเราไม่ใช่ฮิ) ของเรามันประชาธิปกู.. กฏหมายมาตรฐานกรู

  12. นพพล permalink
    วันจันทร์ 2 พฤศจิกายน 2009 12:42 น.

    การเป็นประมุขบริหารกับประมุขสัญญลักษณ์ ต้องแยกแยะให้ออก ประเทศอื่นยกเว้นประเทศไทย เขาเจริญกว่าเรา เพราะ เขากำหนดให้การเป็นผู้นำประเทศ เป็นสิทธิส่วนบุคคลผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ มนุษย์ที่มีชีวิตทุกคน ล้วนมีสิทธิ์ในการเป็นประมุขของแผ่นดินที่ตนอาศัยอยู่ รธน.ของอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน จีน อินเดีย ลาว พม่า ล้วนแต่สนับสนุนสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น ดังนั้น ควรจะปลูกฝังเยาวชนไทยให้รู้จักการปกครองประเทศ การเป็นประมุข พร้อมที่จะเป็นประธานาธิบดีได้ทุกเมื่อ ผมเรียน ม.ร.ภ. เรียงความได้ที่1 จากบทความ “เมื่อฃ้าพเจ้าเป็นประธานาธิบดีสารขันฑ์” หลอกเขาจนคิดว่าคือเรื่องจริง ปธน.นั้น เกิดจากรากหญ้า คำบัญชาจึงใช้ได้เพียง พระประศาสน์ ไม่มีการสืบสันตติวงศ์ ตำแหน่งกษัตริย์มีในการปกครองทุกระบอบ สังเกตง่ายคือ จะมีการสืบสันตติวงศ์ ผิดกับประธานาธิบดี

  13. เฝ้าแต่แลมอง permalink
    วันจันทร์ 2 พฤศจิกายน 2009 13:12 น.

    ถวิลหาและเฝ้ารอด้วยใจจดจ่อ ว่าเมื่อไหร่ประชาธิปไตยแบบเต็ม ๆ ใบจะบังเกิดแก่ประชาชนชาวไทยเสียที….จะได้เจริญทัดเทียมอาณาอารยประเทศเขาสักที ซึ่งก็เป็นเรื่องยาก…..พิธีการส่งไม้ต่อเริ่มขึ้นแล้ว ว ว ว

  14. นางในหัวใจเธอ permalink
    วันอังคาร 3 พฤศจิกายน 2009 20:31 น.

    ขอให้ประชาธิปไตยจงวิ่งมาหาท่าน “เฝ้าแต่แลมอง” ด้วยเถิด ออกกำลังบ้างก็น่าจะดีนะท่าน จะได้ไม่เป็นง่อยก่อนจะได้แลประชาธิปไตยเต็มใบที่ว่างะ…แฮ่!!!!!! ย่อเย่นนะ….

  15. Wasteboy permalink
    วันพฤหัสบดี 5 พฤศจิกายน 2009 10:21 น.

    “โลกคือละคร”
    ทุกคนมีบทบาทและหน้าที่ทางสังคม
    แต่ผู้กำกับดันกำกับไม่ได้…เกิดวาระซ่อนเร้น
    มีบทบาทแต่ทำหน้าที่ไม่ได้ตามบทบาท
    ไม่มีบทบาทแต่ทำหน้าที่ซ่อนเร้นได้

    สังคมไทยก็กลายเป็น “ละครหุ่น”
    ไอ้ประชาชนอย่างผม ก็สับสนว่า
    ละครหุ่นมันเชิดกันยังไง
    หุ่นบางตัวคนเชิดหลายคน
    คนบางคนเชิดหุ่นหลายตัว

    หุ่นบางตัวคนแย่งกันเชิด
    คนบางคนหุ่นอยากให้เชิด

    ต้องการแต่บทบาทกันทั้งบาง
    ไม่อยากรับผิดโดยหน้าที่
    แต่รับชอบตามบทบาท

    ไอ้ข้างล่างก็ตามกันไป
    เห็นวัฒนธรรมซ่อนเร้น
    เป็นความชอบธรรม

    ไอ้ที่เลว…ก็เลวกันไป
    ไอ้ที่ดี…ก็ดีกันไป
    ไอ้ที่ไม่รู้…ก็ไม่รู้กันไป
    ไอ้ที่รู้มาก…ก็คิดมากกันไป
    ไอ้ที่มี…ก็ไม่อยากเสีย
    ไอ้ที่ไม่มี…ก็อยากได้
    ไอ้ที่ได้…บ้างก็อยากได้อีก
    ฯลฯ

    โลกมันก็เลยวุ่นวาย…อย่างที่เห็น
    อำนาจ เกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง
    เป็นที่ใฝ่หาของคนทุกยุคสมัย
    มีทั้งแบบเกมเล็กและเกมใหญ่

    โลภะ โทสะ โมหะ…เป็นอาภรณ์แสดงตัวตน
    มนุษย์สร้างสังคมโดยตัวตน..ให้บทบาทให้หน้าที่
    ในบทบาทก็มีตัวตน…ในตัวตนก็มีราคะ
    มนุษย์ก็สร้างกรอบแห่งวัฒนธรรม ศีลธรรม กฎหมาย
    ให้แสดงแต่บทบาท ไม่ให้แสดงตัวตน ในเกมใหญ่
    ให้แสดงตัวตน ไม่ให้แสดงราคะ ในเกมเล็ก

    “ซ่อนเงื่อนกันอยู่อย่างนี้ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”

  16. รอ permalink
    วันศุกร์ 6 พฤศจิกายน 2009 11:50 น.

    เห็นหัวเรื่องแล้วอยากอ่าน..พออ่านจบแล้ว…ในใจคิดว่าอยากให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ ……..อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในเร็ววัน หน่ะ

  17. Aino permalink
    วันอาทิตย์ 8 พฤศจิกายน 2009 23:00 น.

    Me too…

  18. คมเคียว สุญญตา permalink
    วันอังคาร 10 พฤศจิกายน 2009 12:50 น.

    เมื่อความโลภบังตามันก็ทำอะไรที่เลวมาก หากคนที่ร่ำรวยมีความเมตตา ปราณีต่อ คนที่ยากจนเกื้อหนุนกัน มันก็ไม่มีอะไร นอกจากคนรวยจะได้รับการชื่นชม แทนคำด่ามาตามหลัง
    โลกของพระโพธิสัตว์ยังอีกไกลจนกว่าการจองล้างจองผล่ญหรือ ขจัดคนเลวไปจากสังคมก่อน เมื่อนั้นสังคมเราจะเข้มแข็งทั้งในเมืองและรากหญ้าจะเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการใช้ ธรรรมะสี่ข้อนี้คือ สุทธิ ปัญญา เมตตา ขันติ
    ธรรมะเยียวยาโลกพระพุทธองค์ทรงแจกจ่ายฟรีโดยไม่ต้องซื้อขาย

  19. jub jub permalink
    วันเสาร์ 14 พฤศจิกายน 2009 17:12 น.

    คนที่ร่ำรวยในประเทศไทย คือใครกันแน่ ดูดีๆ พวกนายทุนมิใช่รึแล้วใครที่เป็นนายทุน มาจากไหน อำมาตย์ หรือศักดินาชั้นไหนรึ ก็งง งง งง อยู่

  20. คนไร้หัว permalink
    วันเสาร์ 14 พฤศจิกายน 2009 21:47 น.

    que sera sera

  21. ไม่บอก permalink
    วันเสาร์ 6 มีนาคม 2010 00:17 น.

    การมีสถาบันกษัตริย์ “ไม่ผิด” หรอก แต่สถาบันกษัตริย์ควรอยู่ใต้กฎหมาย และอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ถูกตรวจสอบได้ วิจารณ์ได้ เหมือนสถาับันอื่น ๆ ก็แค่นั้นเอง แค่นี้เองทำไมทำไม่ได้ ?

    คุณจะมี จะตั้งสถาบันอะไรก็ตั้งไปเถอะ ไม่มีใครห้าม ไ่ม่มีใครต่อต้าน ไม่มีใครจะไปล้มล้างหรอก แต่แค่ว่าทุกสถาบันต้องอยู่ใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญหมดก็แค่นั้นเอง
    เพราะ ทุกคนก็เป็น “มนุษย์ปกติ” เหมือนกันหมด ไม่มีเทพเจ้า ไม่ีมีเทวดา ทุกคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทุกคน จริงหรือไม่จริง ???

    แม้แต่ “พระพุทธเจ้า” ยังป่วย ยังตายเลย และคำสอนของพระพุทธเจ้ายังอนุญาติให้ สงสัยถกเถียง วิจารณ์ได้เลย

    คุณ “พิสูจน์ (Proof)” ให้เห็นจริงสิว่า กษัตริย์ไม่ใช่คนธรรมดา ๆ พวกเขาเป็นเทพเจ้า เป็นเทวดาอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีอะไรผิดพลาด สมบูรณ์ไร้ที่ติ ?

    ทำไมต้องมีบางสถาบันสิ่งมีสิทธิพิเศษอยู่เหนือทุก ๆ อย่างล่ะ ?

    โปรดเถียงด้วย “วิทยาศาสตร์” อย่าใช้ “ไสยศาสตร์”

    • Philips permalink
      วันพฤหัสบดี 1 เมษายน 2010 11:41 น.

      ไม่ได้มาล้มล้างราชวงศ์

      แค่ล้มล้างความเชื่อเก่า ๆ ซะ

      มองไปข้าหน้าด้วยความเท่าเทียม

      ไม่มีใครเหนือกว่าใคร

      ไม่ควรมีสถาบันใดอยู่เหนือกฏหมาย

      ใครทำชั่วก็ต้องถูกลงโทษ

      ใครจะวิจารณ์ใครก็ทำได้ภายใต้กฏหมายเดียวกัน

    • napa permalink
      วันพฤหัสบดี 6 พฤษภาคม 2010 11:27 น.

      เถียงด้วยวิทยาศาสตร์เช่นกันค่ะ อะไรคือสิ่งที่ถูกที่คุณถามถึงคะ /ถูกใจหรือถูกต้อง/ แล้วเอามาตรฐานอะไรมาวัดคะ /ถ้าถูกต้องสำหรับประชาธิปไตย แต่มันผิดธรรมาธิปไตยละ //คนเราเกิดเป็นคนเหมือนกันทุกคน แต่ต้นทุนที่สั่งสมมาไม่เท่ากันค่ะ/สำหรับคุณถ้าพูดถึงเรื่องศาสนา อาจยังคงเป็รไสยศาสตร์ แต่กับคนบางพวกบางกลุ่มพุทธศาสนาเป็รวิทยาศาสตร์ค่ะ

    • ฉันเอง permalink
      วันอังคาร 15 มิถุนายน 2010 06:32 น.

      ชอบความคิดเห็นนี้มาก…คิดแบบวิทยาศาสตร์

  22. แตงโม permalink
    วันศุกร์ 12 มีนาคม 2010 15:54 น.

    วิเคราะห์ดูแล้วกลุ่มอำมาตย์มันวางแผนกุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จแน่ ๆ

    พวกมันนั่นแหละทรราชตัวจริงที่ไม่จงรักภักดีและเตรียมจะทรยศราชวงศ์

  23. วันอาทิตย์ 25 เมษายน 2010 18:21 น.

    สงสารคนที่งมงายไม่รู้จักจบจักสิ้น
    จะถ่วงความเจริญของคนอีกหกสิบกว่าล้านไปถึงไหนจ๊ะเทวดา

  24. วันพฤหัสบดี 3 มิถุนายน 2010 10:29 น.

    ประชาชนทุกคนต้องร่วมผลักดันปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คือรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ประชาชนเท่านั้นที่เป็นเจ้าของประเทศ ผู้ใดจะมาแอบอ้างเป็นเจ้าของคนเดียวนั้นมิได้

  25. วันเสาร์ 5 มิถุนายน 2010 12:31 น.

    ยากให้นายกไทยเป็นเหมือนนายก อังกฤษ ญี่ปุ่นบ้าง แก้ปัญหาไม่ได้ตามที่พูดลาออก …….สุดยอด
    นายกไทยทั้งขับทั้งไล่ก็ยังน่าด้านอยู่ อยู่เพ่อบิดเบือนไปวันๆ อนาคตประเทศจะเป็นอย่างไร ผลาญเงินไปมากแล้วคงหาทางกู้ หรือไม่ก็เก็บภาษีเพิ่ม โดยเฉพาะการขึ้นราคาน้ำมัน………

  26. วันเสาร์ 5 มิถุนายน 2010 12:35 น.

    อย่างหนาตราช้างต้องอภิสิทธิ์

  27. รอวันฟ้าสาง permalink
    วันพฤหัสบดี 25 พฤศจิกายน 2010 23:43 น.

    เมื่อวันฟ้เปิด”แสงทองส่องฟ้าอำไพ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

  28. ลมใต้ปีก permalink
    วันจันทร์ 17 มกราคม 2011 11:00 น.

    ผมไม่ทราบว่าคุณจะได้รับข้อมูลมาจากไหนก็ตาม
    การที่คนเราจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปได้นั้น เป็นเรื่องที่ดี
    แต่จะต้องไม่แตกแยกกัน และจะต้องไม่ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสีย
    การแสดงออกทางการเมืองนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรแสดงออกทางความคิดให้อยู่ในขอบเขต
    กฎเกณฑ์ของกฎหมาย และต้องอยู่ในดุลวินิจ เชื่อเุถอะว่าคนเราทุกคนในประเทศมีใจรักชาติกันหมด
    โดยเฉพาะไม่ควรไปพาดพิงเกี่ยวกับสถาบันฯ ในทุกๆ เรื่องเพราะไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูดกันน่้ะััคับ
    ถ้าเราทุกคนรักประเทศเราก็ไม่ควรกล่าวถึงสถาบันฯ

  29. มานพ จุลมงคล permalink
    วันอังคาร 1 มีนาคม 2011 13:26 น.

    เห็นด้วยกับ คุณลมใต้ปีก ครับไม่ควรไปวิพากวิจารณ์ ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

  30. เรารักในหลวง permalink
    วันพฤหัสบดี 3 มีนาคม 2011 16:40 น.

    กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุ­กชั้นฟ้า อภิบาลปกปักรักษาคุ้มครององค์พร­ะบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงตราบน­านเท่านาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

    ขอให้พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญให้­กับปวงประชาทั่วราช ตลอดไป ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืน­นาน เทอญ ฯฯ

  31. เรารักในหลวง permalink
    วันพฤหัสบดี 3 มีนาคม 2011 16:42 น.

    เรารักพระเจ้าอยู่หัวที่สุด

  32. คนผ่านทาง permalink
    วันศุกร์ 4 มีนาคม 2011 16:37 น.

    ช่วยกัน vote Good ให้กับสิ่งดีๆ ด้วยครับ

  33. chad permalink
    วันเสาร์ 5 มีนาคม 2011 11:40 น.

    โชคดีที่ได้เกิดบนแผ่นดินนี้ แผ่นดินของในหลวงของเรา

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ

ใส่ความเห็น