ข้ามไปยังเนื้อหา

รอยเตอร์: บทวิเคราะห์ – กองทัพไทยกำลังแตกใช่ไหม

วันศุกร์ 29 มกราคม 2010

ANALYSIS-Are cracks appearing in Thailand’s military?
January 27, 2010
By Martin Petty
ที่มา – Reuters
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

กรุงเทพ – การยิงลูกระเบิดใส่ที่ทำงานของผู้บัญชาการทหารของประเทศไทยในเดือนนี้ เป็นการโหมกระพือความกลัวเพิ่มให้กับวิกฤติทางการเมืองที่กำลังรุนแรงถึงขีดสุด – เป็นไปได้ที่ว่า มีการแตกแถวในหมู่กองทัพซึ่งทำให้ประเทศเกิดการแบ่งแยก

นักวิเคราะห์ นักการทูต และแหล่งข่าวจากกองทัพกล่าวว่า เป็นเรื่องเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการแตกแยกของกองทัพที่มีอำนาจ และเกี่ยวข้องกับการเมืองของประเทศไทย ความแตกต่างในอุดมการณ์ซึ่งกำลังเสื่อมถอยและขยายตัวอย่างหนักนี้ เป็นหนึ่งในข้อโจมตีอย่างร้ายแรงที่สุดในรอบหลายๆทศวรรษ

การแบ่งแยกในสถาบันอันเป็นศูนย์รวมอำนาจในโครงสร้างของประเทศไทย ย่อมส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างหนักหน่วงสำหรับภาพในอนาคตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ต้องขี้นอยู่กับการส่งออกมูลค่า ๙,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท และเพิ่มทัศนคติให้กับบริษัทต่างชาติว่าประเทศนี้ขาดเสถียรภาพ จากครั้งหนึ่งซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นประตูสู่ภูมิภาคนี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ทหารยศต่ำจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสบางคนกำลังมีความเห็นใจกับการเคลื่อนไหวประท้วงของเสื้อแดงชาวชนบท รากหญ้าที่ประท้วงรัฐบาล

ในทางกลับกัน ทหารระดับสูงในกองทัพหลายคนกำลังอยู่กับการเมืองอีกขั้ว โดยร่วมกับฝ่ายคลั่งเจ้า นักธุรกิจศักดินา และชนชั้นกลางในเมืองหลวง ซึ่งใส่เสื้อเหลืองในการประท้วง และส่วนใหญ่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้

การแบ่งแยกระหว่างแดง-เหลืองนั้น ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ยากที่จะปรองดองกันได้

ตลาดหุ้นไทยยังตกอยู่ในสภาพอ่อนไหวเพื่อการปรับตัว หลังจากที่ได้รับผลของการเคลื่อนไหวของคลื่นเงินจากต่างชาติ ที่เข้ามาในตลาดหุ้นเอเชียที่กำลังรุ่งและฟื้นตัวเป็นภูมิภาคแรกจากวิกฤติเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นยังตกอยู่ในเดือนมกราคม แต่ดีดตัวขึ้นมาประมาณร้อยละ ๘๕ จากที่เลยต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑

นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงประจำกรุงเทพ ซึ่งขอสงวนนามเนื่องจากการถกเถียงเกี่ยวกับกองทัพเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กล่าวว่า “เมื่อเกิดความวุ่นวาย และประเทศชาติเกิดความแตกแยก ประชาชนมองไปที่กองทัพในการควบคุมสถานการณ์”

“แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกในยุคนี้ที่เราเห็นกองทัพกำลังแตกแยกกันได้ขนาดนี้ แน่นอนว่าเป็นการแตกแยกทางอุดมการณ์ แม้จะยังไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆก็ตามที แต่ขี้นอยู่กับว่าวิกฤติเช่นนี้จะดำเนินไปทางใด”

การโจมตีที่ทำงานของอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคมนี้ – แต่เวลานั้นอนุพงษ์ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ – และเห็นได้ชัดว่าพยายามที่จะปกปิดในเรื่องนี้ ผลจากการสำรวจพบว่า สร้างความไม่มั่นใจต่อกองทัพให้กับสาธารณะชน แม้ว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่การโจมตีอย่างซึ่งๆหน้าแบบนี้ถูกมองว่า เป็นการหยามอำนาจของอนุพงษ์

นายทหารกร้าว

การลังเลของเจ้าหน้าที่ที่จะจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ ซึ่งเป็นทหารยศพลตรีที่กระด้างกระเดื่องและเปิดเผยตัวว่า เป็นมิตรกับฝ่ายเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล เกิดมีคำถามขึ้นมาว่า กองทัพมองว่าเขามีอิทธิพลต่อฝ่ายทหารประจำการขนาดไหน

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผลผู้มีชื่อเสียง – นายทหารมาเวอริค ผู้เรียกตัวเองว่านักรบ เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “เสธ.แดง” – ถูกนักวิเคราะห์ตัดออกไปว่าเป็นแค่เพียงพวกปากเสียที่เรียกร้องความสนใจเท่านั้น แต่เสธ.แดงปลาบปลื้มกับบรรดานายทหารบางคนที่ติดตามเขาอย่างคลั่งไคล้ และเขาได้ขู่อนุพงศ์ต่อหน้าสาธารณะอย่างไม่เกรงกลัว โดยเตือนอนุพงษ์ถึงเรื่อง “การจ้องจองกฐิน”

ขัตติยะมีความสัมพันธ์กับมหาเศรษฐีที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงสองครั้ง อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรซึ่งถูกปล้นอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี ๒๕๔๙ และกำลังอยู่ระหว่างการลี้ภัย เสมือนผู้นำของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นฝ่ายค้าน และเสมือนผู้นำการเคลื่อนไหวของ “เสื้อแดง” – ซึ่งทั้งสองฝ่ายนี้หาทางที่จะล้มรัฐบาลซึ่งมีทหารหนุนหลังของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงเสริมต่อว่า “รัฐบาลนี้อยู่รอดมาได้เพราะกองทัพ” “ขาดกองทัพแล้ว รัฐบาลล่มแน่”

กองทัพแสดงบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลางจัดตั้งรัฐบาลผสมเพื่อกำจัดทักษิณให้พ้นทาง แต่พรรคผสมถึงหกพรรคซึ่งดูเปราะบาง กำลังเผชิญกับการแตกแยกภายใน และขาดเสียงสนับสนุนจากความนิยมที่จะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง

เกิดคำถามขึ้นมาว่า กองทัพ และผู้หนุนหลังทั้งหลายจะทำอย่างไร ถ้ารัฐบาลนี้ล้ม และถ้าพรรคพวกของทักษิณ ซึ่งกำลังต่อสู้ข้างเวทีอย่างหนัก ยึดอำนาจกลับคืนมาด้วยชัยชนะจากการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยของทักษิณ

ทักษิณ ผู้ถูกตัดสินว่าฉ้อราษฎร์และกำลังอยู่ในระหว่างการลี้ภัย ออกมาโลดเล่นบนเวที กระชับความสัมพันธ์ร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซน แห่งประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา และระดมกำลังสนับสนุนจากเพียงแค่ชายแดน

ฝ่ายตรงข้ามทักษิณกล่าวว่า ทักษิณขาดความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดชพระชนมายุ ๘๒ พรรษอันเป็นที่เคารพสูงสุด ทักษิณกล่าวว่า การตัดสินคดีของเขานั้นมีสาเหตุจากการเมือง และยืนยันว่าเขาสนับสนุนราชวงศ์

คำถามที่เหมือนเติมเชื้อไฟลงไปในการเมืองที่ร้อนระอุ คือเรื่องเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์ต่อจากกษัตริย์ผู้ทรงชราภาพ ซึ่งกำลังประทับในโรงพยาบาลนับตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน และแม้ท้ายสุดแล้วการเปลี่ยนแปลงผู้ครองบัลลังก์จะนำไปสู่การเปลี่ยนถ่ายความสมดุลของอำนาจในกองทัพ ซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติเอียงใกล้ชิดกับพระราชวังจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม

โรเบอร์โต้ เฮอเรร่า-ลิม นักวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงจากกลุ่มยูเรเชียกล่าวว่า “ความไม่แน่นอนประการแรกเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในกองทัพ” “โดยเฉพาะในเรื่องความสามัคคี ทหารมองการเมืองไทยในทุกวันนี้ว่าเป็นอย่างไร และทหารซึ่งเชื่อว่าบทบาทของกองทัพซึ่งเป็นทั้งสถาบัน และในสถานการณ์ปัจจุบันนี้คืออะไร

“รัฐประหารหรือ รัฐประหารอะไรกัน”

หลังจาก ๗๗ ปีที่เกิดการทำรัฐประหารที่ประสบความสำเร็จ และที่พยายามจะทำถึง ๑๘ ครั้ง กองทัพดูเหมือนไม่มีความสามารถที่จะเลิกแส่กับการเมืองไทย และการทำรัฐประหารอีกครั้งจึงไม่ใช่เรื่องเกินวิสัย ถ้าบุคคลในชุดเขียวต้องเสี่ยงกับการสูญเสียอิทธิพลหลังฉากในทางการเมือง

รัฐบาลทหารแทบจะไม่ใช่เรื่องดีในการกำหนดนโยบายใดๆ เห็นได้จากหลายเดือนต่อมาจากการทำรัฐประหารของไทยในปี ๒๕๔๙ เมื่อนักลงทุนพบว่า รัฐบาลซึ่งแต่งตั้งมาจากกองทัพนั้นมือไม่ถึงเพียงใด

ในขณะที่ยังไม่เห็นตลาดหุ้นดิ่งหนักในทันทีหลังจากการทำรัฐประหาร ๙๐ วันต่อมาธนาคารชาติตัดสินใจนำมาตรการการควบคุมเงินทุนมาใช้ สร้างความแตกตื่นให้กับนักลงทุน และนำไปสู่การดิ่งตัวของตลาดหุ้นเกือบร้อยละ ๑๕

บางทีเรื่องที่น่าวิตกยิ่งกว่านั้นคือ โอกาสที่จะเกิดปฏิกิริยาสะท้อนกลับจากประชาชนแต่ละคน ซึ่งมีความตื่นตัวทางการเมืองนับตั้งแต่การทำรัฐประหารครั้งล่าสุด การทำรัฐประหารอีกครั้งอาจเป็นการจุดชนวนให้เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงมากกว่าเมื่อสี่ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกมองว่าเป็นการเหยียบย่ำประชาธิปไตยที่เป็นที่นิยมอีกครั้ง

ลางร้ายดูจะเพิ่มขึ้น จากการปรากฏตัวของทหารที่ขับเคลื่อนรถถัง ๒๒ คัน เมื่อวันจันทร์โหมข่าวลือว่า จะเกิดการทำรัฐประหารอีกครั้ง แท้จริงแล้วรถถังเหล่านี้มุ่งหน้ามาเพื่อทำการซ่อมบำรุง และกองทัพได้ออกมาขอโทษเมื่อวันอังคารที่เป็นผู้สร้างความตื่นตระหนก

หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเมื่อวันพุธว่า “รัฐประหารหรือ รัฐประหารอะไรกัน”

ทักษิณรู้ซึ้งเป็นอย่างดีต่อการทำรัฐประหารซึ่งโค่นรัฐบาลของเขา และตั้งแต่นั้นมาทักษิณได้รวบรวมกำลังกองทัพของเขาเองจากฝ่ายสัมพันธมิตรภายในกองทัพ รวมถึงอดีตเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารซึ่งเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เนื่องจากนายทหารหลายนายถูกโยกย้ายตำแหน่งหลังจากทักษิณถูกปล้นอำนาจ

เมื่อเดือนตุลาคม ทักษิณเชิญชวนอดีตผบ.ทบ. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยักษ์ใหญ่ทางการเมือง และผู้ทรงอิทธิพลให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จากนั้นชวลิตชักชวนบรรดานายทหารที่เกษียณอายุให้เข้าร่วมพรรค ซึ่งกำลังถูกมองว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความแตกแยกให้กับสถาบันซึ่งเคยมั่นคงราวภูผา

ผู้วิจารณ์ทักษิณกล่าวว่า ทักษิณมีความหวังว่าการประท้วงของ “เสื้อแดง” ในเดือนหน้าจะนำไปสู่ความรุนแรง และจุดชนวนไปสู่การปฏิบัติการของกองทัพ เพื่อช่วยให้ทรัพย์สินของเขาจำนวน ๗๖,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะถูกศาลสูงมีคำสั่งให้ยึดในวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ได้กลับคืนมา ทักษิณปฏิเสธในเรื่องนี้

ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับโอกาสรอดของรัฐบาล กับความพอใจในตัวอภิสิทธิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีของทหารระดับสูงของกองทัพว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการหมดความอดทนกับหนทางตันที่เนิ่นนาน และเข้าไปจัดการด้วยวิธีของตัวเอง

โรเบอร์โต้ เฮอเรร่า-ลิม จากยูเรเซียกล่าวต่อว่า “ภายในกองทัพยังคงมีความรู้สึกถึงอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ” “ซึ่งอาจจะตัดสินด้วยตัวเองที่จะเข้ายึดประเทศ หากการเมือง (ยังคง) เป็นอัมพาต”

(รายงานเพิ่มเติมโดย อัมบิกา อะฮูฮา แก้ไขโดย เจสัน เซฟ)

3 ความเห็น leave one →
  1. พรสุดา permalink
    วันศุกร์ 2 กรกฎาคม 2010 14:47 น.

    อาจจะจริงมั้ง

    เพราะประเทศไทยขาดผู้นำที่เด็ดขาด

    และเป็นธรรม

  2. วันพุธ 26 มิถุนายน 2013 23:31 น.

    Hello there! This is kind of off topic but I
    need some guidance from an established blog.
    Is it very hard to set up your own blog? I’m not very techincal but I can figure things out pretty quick. I’m thinking about making my own but I’m not sure where to start. Do you have any ideas or suggestions? Cheers

Trackbacks

  1. Tweets that mention รอยเตอร์: บทวิเคราะห์ – กองทัพไทยกำลังแตกใช่ไหม « Liberal Thai -- Topsy.com

ใส่ความเห็น