ข้ามไปยังเนื้อหา

ความเกลียดและกลัว สร้างรอยด่างให้ราชวงศ์

วันเสาร์ 9 พฤษภาคม 2009

Fear and loathing marks Thailand’s malicious monarchy
James Anstruther – ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๒
ที่มา – Tribune Magazine
แปลและเรียบเรียง – chapter 11

ราชวงศ์แห่งประเทศไทย ผู้ซึ่งปรามาสประชาธิปไตย เจมส์ แอนสตรัทเตอร์รายงานเรื่องกษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดช มีการบีบบังคับต่อผู้ที่ไม่เห็นด้วยทั้งหมดอย่างไร

กษัตริย์ภูมิพล อดุลยเดช แห่งประเทศไทย ทรงแสดงอย่างแน่ชัดถึงความคิดที่จะเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยือนประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา นับตั้งแต่กษัตริย์พระชนมายุ ๘๒ พรรษา ได้ทรงหยุดการเสด็จออกนอกประเทศตั้งแต่ช่วงปี ๒๕๐๓ แม้กระทั่งก่อนหน้านั้นพระองค์ทรงเสด็จไปยังประเทศพันธมิตร ซึ่งจะให้ผลประโยชน์กับการต่อสู้สมัยสงครามเย็นต่อต้านฝ่ายซ้ายในเวลานั้นเท่านั้น และได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังประเทศเวียดนามใต้ในปี ๒๕๐๒ แต่ไม่เคยทรงเสด็จไปยังประเทศเวียดนามเหนือ หรือแม้แต่ลาว และกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทย

พระองค์ทรงเข้าใจในความรู้สึกที่ว่าความเป็นธรรมราชา หรือทศพิธราชธรรมของพระองค์นั้นก็เพื่อแผ่นดินของพระองค์ เพื่อทรงปกป้องราชอาณาจักรที่ดูเหมือนกับว่า จะไม่มีการแบ่งแยก และไม่มีความลำบากยากเข็ญ ตัวอย่างเช่น วิกฤติการเมือง ซึ่งได้แสดงออกบนท้องถนนในกรุงเทพในระยะสามปีที่ผ่านมา แต่พระองค์กำลังจะทรงปฏิบัติต่อประเทศอินเดียเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งพระองค์ได้เคยเลี่ยงมาก่อน เนื่องจากนโยบายทางการเมืองเอียงซ้ายของอินเดีย และความมีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อสหภาพโซเวียต

กษัตริย์ภูมิพลทรงรับเอาแนวความคิดเรื่องความมีทศพิธราชธรรมมาจากอินเดีย พระองค์ทรงได้รับการเชิดชูจากบรรดาผู้ที่จงรักภักดีว่า พระองค์ทรงอุปมาเหมือนเป็นพระนารายณ์เทพเจ้าแห่งฮินดู (การอวตารของพระวิษณุ) ตามธรรมเนียมของฮินดู ซึ่งหลอมรวมกับราชวงศ์ทางพุทธ

และความมีทศพิธราชธรรมของกษัตริย์ กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับราชอาณาจักร การเกิดรัฐประหารบ่อยครั้งนับตั้งแต่การเสด็จขี้นครองราชย์ของพระองค์ในปี ๒๔๘๙ หลังการสวรรคตของพระเชษฐาจากกระสุนปืน ซึ่งทรงขี้นครองราชย์ได้เพียงสามเดือน กษัตริย์ภูมิพล (เซ็นเซอร์) xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx.

นับตั้งแต่ทรงครองราชย์ พระองค์ไม่ได้ทรงเห็นชอบกับการทำรัฐประหารในทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม การรัฐประหารครั้งล่าสุดนี้ เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๙ เพื่อขับไล่ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนเดียวแห่งประเทศที่ได้รับการเลือกตั้งมาบริหารประเทศอย่างแท้จริง และเป็นที่แน่ชัดว่าพระองค์ทรงเห็นชอบด้วย

ในประเทศไทยได้ให้คำอธิบายกษัตริย์ว่า เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญมาถึง ๑๗ ฉบับ นับตั้งแต่การสิ้นสุดการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชในปี ๒๔๗๕ รัฐธรรมนูญเหล่านี้ได้ระบุเรื่องระบบรัฐสภา และมีบางฉบับระบุให้เป็นแบบเผด็จการทางทหาร แต่รัฐธรรมนูญทุกฉบับได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับพระราชอำนาจของความเป็นพระสมมุติเทพแห่งกษัตริย์ และรวมถึงบทบัญญัติเกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นฯ คือการห้ามไม่ให้มีการดูหมิ่น หรือแม้แต่วิจารณ์กษัตริย์ หรือราชวงศ์ หรือแม้แต่สถาบันกษัตริย์

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กษัตริย์ไม่ได้เป็นผู้ทรงวางกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติเรื่องกฎหมายหมิ่นฯ จะปลอดภัยกว่าถ้าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักการเมือง นายพลทั้งหลาย หรือแม้แต่สาธารณชนบางส่วน ข้อกล่าวหาในเรื่องกฎหมายหมิ่นฯตั้งขึ้นได้หลายรูปแบบ และตำรวจต้องสอบสวนทุกข้อกล่าวหาที่ได้รับเบาะแส แม้ว่าจะเป็นเพียงการกล่าวหาเพียงเล็กน้อย ลหุโทษอย่างต่ำสุดคือการจองจำในคุกถึงสามปี ในขณะที่คดีที่มีต่อชาวต่างชาติที่โชคร้ายนั้นได้ถูกรายงานไปทั่วโลก แต่การลงโทษจำคุกสำหรับประชาชนไทยที่ทำผิดกฎหมายหมิ่นฯนี้ ปกติแล้วจะได้รับโทษทัณฑ์ที่รุนแรงมากกว่าชาวต่างชาติ

กษัตริย์ภูมิพลทรงประสูติที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระบิดาของพระองค์ทรงกำลังศึกษาในฮาร์เวิร์ด พระองค์ทรงได้รับการศึกษาจากโรงเรียนในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สำหรับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน พระองค์ได้ทรงหันไปหาคนไทยซึ่งเกิดในต่างประเทศเช่นเดียวกัน นั่นก็คืออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วัย ๔๔ ปี เป็นบุตรของนายแพทย์จากวอลเซน อภิสิทธิ์ได้รับการศึกษาจากอีตันและอ็อกซ์ฟอร์ด และที่แน่ชัดว่าเป็นมิตรที่ดีกับ บอริส จอห์นสัน (นักการเมืองและนักข่าวของอังกฤษ) แม้ว่าจะเป็นการยากที่จะฟันธงลงไปว่า ในสองคนนี้ใครกันที่ควรจะน่าขายหน้ามากกว่ากัน

นายกรัฐมนตรีทักษิณที่ถูกปล้นอำนาจจากการทำรัฐประหารครั้งหลังสุด เป็นนักการเมืองของประเทศคนแรกที่มีความทันสมัย ทักษิณได้กระทำการรณรงค์อย่างจริงจังสำหรับผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้เขา แทนที่จะพูดเรื่องการเมืองในห้องประชุม รัฐบาลของทักษิณเป็นเพียงรัฐบาลเดียวที่ได้รับเสียงข้างมากในสภา และได้นำนโยบายที่เป็นที่นิยมหลายนโยบาย เพื่อยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของคนยากจนชนบท ทักษิณได้เป็นบุคคลแรกของประเทศที่ได้จัดตั้งโครงการสวัสดิการสุขภาพถ้วนหน้า

อดีตนายตำรวจซึ่งกลายมาเป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐี ทักษิณมีบางอย่างในตัวที่ทำให้นึกไปถึงประธานาธิบดีซิลวีโอ แบร์ลุสโกนีแห่งอิตาลี และนโยบายของทักษิณไม่ได้ผ่านไปด้วยดีทั้งหมด การประจันหน้ากับโจรแบ่งแยกดินแดงมุสลิมในสี่จังหวัดภาคใต้ด้วยการใช้ความรุนแรง และการประกาศสงครามยาเสพติด ซึ่งนำไปสู่ความตายที่ควรเลี่ยงได้ แต่ทักษิณเป็นที่นิยมอย่างมหาศาลจากชาวชนบท และได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งครั้งต่อมาในปี ๒๕๔๘ เป็นการชนะอย่างถล่มทลายในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งในประเทศไทย

ไม่ใช่เพราะนโยบายต่างๆที่ทำให้ทักษิณต้องล่มสลาย ในความเป็นจริง เพราะความนิยมชื่นชอบที่มีต่อทักษิณต่างหากที่ทำให้เกิดเรื่อง เมื่อไม่สามารถเอาชนะทักษิณจากการเลือกตั้งได้ รัฐประหารเป็นหนทางเดียวที่จะกำจัดทักษิณได้ นายพลต่างๆกล่าวหาทักษิณว่าฉ้อราษฎร์บังหลวง และแน่นอนกระทำผิดต่อกฎหมายหมิ่นฯ การเดินสายหาเสียงทั่วประเทศของทักษิณ เป็นการทำให้ทักษิณเป็นที่นิยม และการเป็นที่นิยมนั้นเป็นหน้าที่ของกษัตริย์ไม่ใช่ของนักการเมือง ซึ่งเป็นเพียงแค่ไพร่ยังไม่พอแถมยังมีเชื้อสายจีนเสียอีก นั่นหมายถึงว่า ทักษิณต้องการล้มล้างอำนาจกษัตริย์และจัดตั้งสาธารณรัฐ หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นเรื่องตามที่ถูกอ้างกัน

นายพลทั้งหลายปกครองประเทศเพื่อพวกพ้องตัวเองเป็นเวลานานมากกว่าหนึ่งปี ก่อนที่จะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และมีการจัดการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ พวกนายพลทั้งหลายสั่งห้ามพรรคการเมืองของทักษิณ แต่พรรคต่อมาของเขาก็ยังคงได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง

รัฐบาลชุดใหม่ถูกโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งจากพวกอันธพาลที่คลั่งเจ้าฝ่ายขวาจัด และถูกโจมตีจากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งนักการเมืองฝ่ายสนับสนุนในสภาบางคนก็ยังถูกซื้อเสียง ตามรายงานมีสิ่งที่บอกว่า นักการเมืองเหล่านี้บางคนอาจจะได้ค่าหัวคนละประมาณ ๑๐ ล้านบาทในการย้ายพรรค และด้วยวิธีการแบบนี้ อภิสิทธิ์ วัย ๔๔ จากอีตัน จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ที่มีอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค เป็นพรรคเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นมาในปี ๒๔๘๙ เพื่อเชิดชูความเป็นราชวงศ์ไทย

ตั้งแต่การทำรัฐประหาร ทักษิณต้องคอยหลบหนีจากอัยการฝ่ายไทยและกองทัพที่หนุนหลังพวกเขา ผู้ซึ่งตัดสินว่าทักษิณมีความผิดในข้อหาที่ไม่ไปปรากฏตัวต่อศาล จากการถูกตัดสินว่ากระทำความผิดในครั้งนี้ ทำให้ทักษิณถูกห้ามเข้าประเทศอังกฤษ หลังจากที่ไทยได้ใช้วิธีทางการทูตกดดันต่ออังกฤษ คุณอาจจะถามว่า แล้วความคิดเรื่องการลี้ภัยทางการเมืองมีไว้เพื่ออะไร

ขณะนี้ทักษิณได้เดินทางโดยใช้หนังสือเดินทางการทูตของนิคารากัว และได้ปรากฏตัวในหลายประเทศเช่น ฮ่องกง และดูไบ ที่ซึ่งเขาได้พูดผ่านวิดิโอลิ้งค์ไปยังฝูงชนชาวไทยที่สนับสนุนเขาเป็นจำนวนมหาศาล ประชาชนซึ่งยังร้องเรียกให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อเลือกรัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งจากความนิยมอย่างแท้จริง

พวกเขาคงไม่มีทางจะได้รับการเลือกตั้งใหม่ จนกว่ารัฐบาลปัจจุบัน จะหาวิธีป้องกันไม่ให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับทักษิณได้รับชัยชนะให้ได้เสียก่อน ในขณะเดียวกันรัฐบาลประชาธิปัตย์ซึ่งเชื่อกันว่า ให้การสนับสนุนด้านธุรกิจ กำลังรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจที่กำลังหมุนร่วงลงสู่ก้นเหว

แต่กษัตริย์ที่ทรงชราภาพไม่สามารถอยู่ได้ค้ำฟ้า ผู้สืบราชสันตติวงศ์จะนำพาไปสู่ยุคใหม่แห่งความสันติ ความเป็นประชาธิปไตย และความเจริญรุ่งเรืองได้หรือ นั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ เช่นเดียวกับศักดินาไทยหลายๆคน เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณผู้ทรงมีความประพฤติไม่เหมาะสม ขณะนี้พระชนมายุได้ ๕๖ ปี ทรงเข้ารับการศึกษาจากโรงเรียนมิลฟิลด์ ที่ต้องชำระค่าเรียนในอังกฤษ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ “ไม่เน้นด้านวิชาการ”

พระองค์ทรงไม่เป็นที่นิยมและเป็นที่หวาดกลัวทั่วประเทศไทย แม้ว่าพระองค์นั้นจะได้รับการปกป้องจากกฎหมายหมิ่นฯแล้วก็ตาม พระองค์ย่อมทรงต้องการกฎหมายนี้

เจมส์ แอนสตรัทเตอร์ เป็นนักข่าวซึ่งทำงานในประเทศไทยจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ชื่อที่ใช้นี้เป็นนามปากกา

14 ความเห็น leave one →
  1. Roja Kamisa permalink
    วันศุกร์ 15 พฤษภาคม 2009 02:41 น.

    We demand equality.

  2. วันพฤหัสบดี 7 มกราคม 2010 12:44 น.

    จงสมัครสมานสามัคคีร่วมใจกันให้มั่นคงด้วยดี ทั้งนี้เพื่อความสุขสวัสดีของท่าน และเพื่อความวัฒนาถาวรของประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย…” กระแสพระราชดำรัส

    • วันจันทร์ 24 พฤษภาคม 2010 22:20 น.

      เป็นความรู้สึกของฝรั่งที่มองไทย ซึ่งผิดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

      รู้แล้วพวกฝรั่งโง่มีมากมายจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

  3. สวยมากมาย permalink
    วันพฤหัสบดี 7 มกราคม 2010 14:59 น.

    เอ๊ะ พิมพ์อักษรตัวใหญ่ก็ได้นี่นา แบบเนี้ยใช้ได้ ขอบคุณ

  4. Talenine permalink
    วันอังคาร 2 มีนาคม 2010 01:43 น.

    พระองค์ไม่เกี่ยวนะ อย่าไปหมิ่นท่านเลย บาปที่สุดเลยรู้ไม๊ แค่นี้ก็แย่กันหมดแล้ว
    เห็นใจพระองค์หน่อย ทรงประชวรอยู่ไม่เข้าใจเหรอ สงบ สันติ สามัคคี กันได้ แล้ว

  5. wiizaa permalink
    วันอังคาร 2 มีนาคม 2010 02:15 น.

    จากนายยก หวังว่าจะก้าวเป็น ประธานาธิบดี

    แต่ดันได้เป็นนักโทษไร้แผ่นดิน

  6. ปี1/2 permalink
    วันจันทร์ 2 สิงหาคม 2010 13:50 น.

    ทำไมนะ คุณครูที่โรงเรียนถึงชอบให้หนูๆถูกยักเยียดให้ต้องหลับหูหลับตากราบไว้ร้องเพลงสรรเสริญ โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องห่าเหวไรเลยว่า ต้องทำทำไม มันไม่ได้มาจากใจหนูซักหน่อย เพราะครูไม่เคยพร่ำรำพรรณเกี่ยวกับคุณสมบัติอะไรฮ่องเต้ของประเทศให้ฟัง มีแต่ท่านดีๆๆๆๆๆ แล้วดียางไง ไทเฮาท่านดีๆ แล้วดีแบบไหน ที่บ้านหนูมีรูปท่านเต็มบ้าน รูปถ่ายกับแขกพระราชาต่างเมืองแบบใหญ่ก็มี โห ดูเสื้อผ้า พระราชวังสิ ช่างโอ่อ่างดงามประดับประดาไปด้วยทองและเพชรพลอย ฮองเฮาทาปากแด๊งแดง พระพักต์ พระโอษฐ์แย้มบานด้วยความปลื้มปิติ แต่พอเปิดทีวีวงจรชีวิตทางช่องหลายสี ชีวิตประชาชนในประเทศอีกมากมาย บ้าน ยังกะกระต๊อบหมา มุงจาก ใบหญ้า สังกะสี ข้าวไม่มีจะกรอกหม้อ ลูกบ้านนั้นก็ทำท่าต้องออกจากรร.มารับจ้างหาเงินเพราะที่บ้านขาดเงินประทังชีวิตมาก ดูสีหน้าเค้าสิ ทุกข์ยาก ซึมเศร้า หมดอาลัยตายอยากกับชีวิตเหลือเกิน เพราะจนไง คนจน ทำงานจนตายก็ยังจน คนรวยมันไม่เคยรู้ไม่เคยลำบากอยู่แต่ในเมืองมากเกินไปรึเปล่า แต่จะว่าอย่างงั้นก็ไม่ถูก เพราะในเมืองก็ยังมีคนขอทาน สุดยอดวงจรอุบาทแห่งความจนเล็กๆ แต่เป็นปัญหาใหญ่เท่าที่หนูพบ สยามสแคว อนุสาวรีย์ชัย สนามหลวง สะพานลอย หนูเดินไนทุกที่นี้มักจะเห็นคนขอทาน หลายฟังชั่น ขาขาด แขนขาด มือด้วน ตาบอด อุ้มลูกมาด้วย ตาแก่ ยายแก่จะกลับบ้าน(แต่พอได้เงินก็ไม่เห็นจะไปไหน)พวกเค้าคงคร่ำหวอดมากในการหาเงินประทังชีวิต ตามฟุตบาท ท้องถนนในเมืองหลวง นี่หรือ ประเทศที่กำลังจะเจริญ ใครเป็นคนคิดวะ ลองไปดูด้านฮ่องเต้ ไทเฮา ท่านเคยรู้หรือเปล่าว่ายังมีมนุษย์ คนจน จ๊นจนๆๆๆจนไม่มีที่จะหาอะไรมาจนได้อีก ที่ยังต้องการโอกาศที่จะเป็นประชาชนที่มีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยู่ดีกว่านี้ กินดีกว่านี้ น้อยคะ การแก้ปัญหาของท่าน ไม่ได้ทั่วถึงปากท้องคนที่เป็นประชาชนคนของประเทศ

  7. เพชราช permalink
    วันพฤหัสบดี 9 ธันวาคม 2010 17:14 น.

    คุณมีลูกกี่คน คุณเลี้ยงลูกคุณให้ดีก่อนเถอะ ให้มีอันจะกินทุกคนนะ ไม่ติดยา ไม่บ้าเกมส์ ประเทศไทยก็เจริญแล้วไม่เกี่ยวกับราชวงศ์เลย

  8. เสี่ยวหมัดสั่ง permalink
    วันพฤหัสบดี 9 ธันวาคม 2010 20:52 น.

    ภูมิพลเขาหากินกับคนจนคนยากคนบ้านนอกครับ เพราะถ้าไม่มีคนเหล่านี้เขาจะมีความหมายอะไร
    เป้าประสงค์ของเขาในการเป็นกษัตริย์คือทำอย่างไรก็ได้ให้คนไทยชนบท จน โง่ เพราะการเข้าถึง
    คนจนและเข้าไปนั่งกลางใจคนบ้านนอกมันทำไม่ยาก สำหรับคนตกทุกข์ได้ยากแค่ข้าวสักชามเขาก็
    เป็นบุญคุณโขแล้ว เหมือนพระท่านเทศน์สอนคนถ้าจะพูดให้กินใจคนเรียกน้ำตาจากผู้ฟังได้ต้องปาฐกถา
    เกี่ยวกับพระคุณแม่และความยากลำบากของแม่ มันเป็นกุศโลบายในการประกาศความยิ่งใหญ่ให้กับตนเอง
    แต่อนิจจาคนเขารู้ทันเลยพูดไม่ออก งง จะว่าไปแล้วท่านพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงท่านก็แก่จนจำทิศเหนือใต้ไม่ได้แล้ว
    แต่ไอ้พวกประจบสอพลอที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการมีชีวิตอยู่ของกษัตริย์เป็นผู้สานต่อเจตนารมณ์เทวกษัตริย์
    จะว่าไปเเล้วพวกเลียก็เหลือเกินจริงๆ เสียงกษัตริย์ตดมันยังขนหัวลุก ไอ้พวกเวลล์

  9. K.n. permalink
    วันจันทร์ 26 กันยายน 2011 11:19 น.

    ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป

  10. K.n. permalink
    วันจันทร์ 26 กันยายน 2011 11:19 น.

    ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด

  11. ร.7 permalink
    วันศุกร์ 18 พฤศจิกายน 2011 13:55 น.

    สิ่งที่ในหลวงทรงทำมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แม้แต่ผู้ที่อ่านหนังสือไม่ออกยังรับรู้ได้ ในหลวงทรงงานเพื่อคนไทยโดยไม่เคยต้องการสิ่งใดตอบแทน ขอในหลวงจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

  12. วาสนา permalink
    วันอังคาร 29 พฤศจิกายน 2011 15:13 น.

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พระองค์ท่านไม่เกี่ยวด้วยหรอกเข้าใจผิดแล้ว

Trackbacks

  1. Top Posts « WordPress.com

ใส่ความเห็น