ข้ามไปยังเนื้อหา

แอนดรูว์ วอคเกอร์ และ นิโคลาส ฟาร์เรลลี่: การร่วมวางแผนของราชวงศ์

วันจันทร์ 20 เมษายน 2009

Thailand’s royal sub-plot
By Andrew Walker and Nicholas Farrelly
๑๔ เมษายน ๒๕๕๒
ที่มา – inside.org
แปลและเรียบเรียง – chapter 11

ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่กราบไหว้ ราชวงศ์ไทยกลับกลายเป็นจุดแห่งความไม่พอใจ
Once sacrosanct, the Thai monarchy has become a focus of discontent

privy-councillor-get-out

ภาพโดย Srithanonchai

เมื่อนายกรัฐมนตรีของไทย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำการการสลายผู้ประท้วงเสื้อแดงเมื่อคืนวันอาทิตย์ ปฏิบัติการเริ่มแรกโดยการวางกองกำลังไว้รอบๆพระราชวังจิตรลดา ที่ประทับของกษัตริย์ในกรุงเทพ เป็นการรักษาความปลอดภัยตามหน้าที่ประจำ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ ไม่มีใครจะคิดว่าเสื้อแดงจะคุกคามความมั่นคงของกษัตริย์ แต่สถาบันสูงสุดของประเทศไทยกำลังถูกลากเข้าไป ในการต่อสู้ว่าใครที่มีสิทธิบริหารประเทศอย่างแท้จริง ในขณะที่เหตุการณ์ทางการเมืองกำลังร้อนระอุ ประเทศกำลังขยับใกล้เข้าไป ใกล้ให้มีการถกเถียงกันอย่างเปิดเผยต่อหน้าสายตาประชาชน เกี่ยวกับบทบาทของราชวงศ์

แรงผลักดันครั้งล่าสุดมาจากการ “โฟนอิน” ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกปล้นตำแหน่งโดยการทำรัฐประหารในเดือนกันยายน ๒๕๔๙ การออกมาปราศรัยอย่างต่อเนื่องได้ช่วยเพิ่มกำลังใจให้กับผู้สนับสนุนเสื้อแดง ทักษิณได้ปฏิบัติการโดยการโจมตีองคมนตรีของกษัตริย์โดยตรง เขาได้พุ่งเป้าไปยังองคมนตรี ตัวแทนของอำนาจ เปรม ติณสูลานนท์ และสุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวหาทั้งสองคนนี้ว่าเป็นผู้สั่งการให้กองทัพทำรัฐประหารล้มรัฐบาลของเขา การเปิดโปงของเขาทำให้เกิดข่าวลือตามหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์อย่างไม่ขาดสาย เกี่ยวกับการวางแผนของผู้ภักดีต่อราชวงศ์ระดับสูง และผลักดันให้คนเสื้อแดงจำนวนนับพันเข้าล้อมบ้านของประธานองคมนตรีเปรม ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปพัทยาเพื่อขัดขวางการประชุมสุดยอดของอาเซียน

จากเหตุการณ์วุ่นวายในขณะนี้ ทำไมเปรมและสุรยุทธ์ถึงได้เป็นตัวเอกของเรื่อง ก็เพราะพวกเขาทั้งสองคนนี้เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศไทย ที่ถูกนับถือว่าเป็นรัฐบุรุษและผู้คงจริยธรรม เปรมเคยเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเคยเป็นนายกรัฐมนตรีจากปี ๒๕๒๓ จนกระทั่งถึงปี ๒๕๓๑ และได้มีความผูกพันที่แน่นแฟ้นและเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์ในการต่อสู้กับพรรคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สุรยุทธ์ ลูกป๋า ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพบก และได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากการทำรัฐประหารในเดือนกันยายน ๒๕๔๙ ทั้งเปรมและสุรยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งคู่ได้รับตำแหน่งทางทหารที่สูงสุด และขณะนี้ทั้งคู่ได้รับตำแหน่งองคมนตรีของกษัตริย์ การโจมตีของทักษิณต่อบุคคลที่มีตำแหน่งที่ทั้งสูงส่งและมีอำนาจสั่งการนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งทางการเมืองไทยที่กำลังขยายตัวอย่างกว้างขวาง แต่ เป็นลางให้เห็นว่าการโจมตีที่ปรึกษาของราชวงศ์ที่โดดเด่นทั้งสองคนนี้ ทักษิณได้ก้าวเข้าไปอีกก้าวหนึ่งในการโจมตีราชวงศ์ คำพูดให้ต่อสู้ของทักษิณเป็นการให้เสื้อแดงทำการรณรงค์เพื่อให้เป็นสาธารณรัฐกลายๆ

ฝันร้ายของเปรม สุรยุทธ์ และคนอื่นๆในบรรดาศักดินาอำมาตย์ ซึ่งนับเป็นทศวรรษแล้วที่มีการจัดการด้านสื่ออย่างระมัดระวัง และเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง แต่ขณะนี้อาจจะถูกเผยโฉมออกมา เมื่ออนาคตของราชวงศ์กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน

กษัตริย์ภูมิพลทรงพระชนมายุ ๘๑ พรรษา และสุขภาพกำลังเปราะบาง เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ในท่ามกลางความยุ่งเหยิงของการเมืองที่กำลังประสบอยู่ขณะนี้ บุคคลที่เหมือนจะเป็นผู้สืบราชวงศ์คือเจ้าฟ้าชายมหาวชิราลงกรณ กำลังถูกจับตามองมากกว่าปกติ เจ้าฟ้าชายไม่เป็นที่นิยมและมีบุคลิกที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ไม่สามารถสืบทอดความมีเสน่ห์ และความมีบารมีที่พระบิดาทรงสะสมมาในช่วงเวลา ๖๒ ปีที่ทรงครองราชย์ หลายๆคนได้รู้สึกว่าพระราชธิดาองค์รอง เจ้าฟ้าหญิงสิรินธรน่าจะเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่จะสืบราชวงศ์มากกว่า บรรดาองคมนตรีกำลังเป็นห่วงเรื่องราชวงศ์จะถูกลากเข้าสู่สนามการเมือง ในช่วงระยะที่ราชวงศ์กำลังอยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคง และความไม่กระจ่างชัดในเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์

ครั้งหลังสุดที่สถาบันกษัตริย์ได้เผชิญกับสภาวะอันตรายอย่างนี้ในปี ๒๔๗๕ เมื่อราชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิราช กษัตริย์ประชาธิปกได้ถูกบังคับให้ยอมรับรัฐธรรมนูญที่ลดอำนาจลง ในปีนั้น กลุ่มที่ไม่มีเชื้อสายเจ้าได้เรียกร้องให้กษัตริย์ทรงสละอำนาจเบ็ดเสร็จที่มีอยู่ ย้อนไปเวลานั้น การนำประเทศไปสู่ความทันสมัยของอดีตกษัตริย์หลายพระองค์ได้ทิ้งให้ศักดินาไทยเชื่อว่า รัฐบาลต้องมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ระเบียบศักดินาอย่างเดิมไม่เหมาะสมเสียแล้ว และจะอนุญาตให้สถาบันกษัตริย์ดำรงอยู่ได้เพียงแค่เป็นส่วนประกอบของบรรยากาศทางการเมือง การปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชได้มาถึงจุดจบ

นับเป็นปีๆและหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำความประนีประนอมระหว่างประชาชน กองทัพ และราชวัง รัฐบาลที่มาจากกองทัพซึ่งมีอำนาจมหาศาลในศตวรรษที่ยี่สิบนี้ ได้มองเห็นผลประโยชน์อย่างใหญ่หลวงที่จะดำรงความเป็นหุ่นเชิดของราชวงศ์ให้เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง

กษัตริย์ภูมิพล ขี้นครองราชย์ในปี ๒๔๘๙ ในขณะที่ยังทรงพระเยาว์ ทรงได้รับการปลูกฝังจากตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายจากบรรดาเหล่ารัฐบุรุษและผู้แทนในอำนาจต่างๆ เช่น บุคคลเยี่ยงเปรมและสุรยุทธ์ รัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่าที่เข้ามาบริหารประเทศ มองหาหนทางรวมชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และพบว่าจะได้รับประโยชน์จากการนำราชวงศ์มาเป็นสัญลักษณ์เพื่อการเป็นศูนย์รวมไทยทั้งชาติ กษัตริย์ภูมิพลจีงเติบโตมากับหน้าที่นี้และมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ พระองค์ทรงดำรงฐานะบุคคลผู้เปี่ยมไปด้วยศีลธรรมอันสูงส่ง ในขณะนี้พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่ทรงประเสริฐ และทุกรัฐบาลที่มาจากการรวมของพวกที่มีอำนาจได้เพลิดเพลินกับการสนับสนุนของกษัตริย์

หลายๆคนได้คาดการณ์ว่ารัฐบาลทักษิณไม่เป็นที่ชื่นชอบของราชวงศ์ ศัตรูของทักษิณได้กล่าวหาทักษิณว่าบ่อนทำลายฐานะของราชวงศ์ ลักษณะการเป็นผู้นำแบบบูรณาการ (ซีอีโอ) บวกกับการสนับสนุนจากคะแนนเลือกตั้งอย่างถล่มทะลายแบบไม่เคยมีมาก่อน แทน ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการมีพิธีรีตองแบบโบราณ และการอุปถัมภ์ค้ำชูของราชวัง กษัตริย์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ต่อคนยากจนของประเทศไทย โดยผ่านโครงการการพัฒนาชนบทที่มีการจัดกองทุนอย่างเหมาะสมและเป็นที่รู้จักกันดีอย่างแพร่หลาย แต่นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมของทักษิณ ซึ่งสูบฉีดเงินให้ทุกหมู่บ้านโดยตรง ได้ลดความมีพระมหากรุณาธิคุณของกษัตริย์ลง

สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีความขัดกันในการสนับสนุนทั้งทักษิณและกษัตริย์ ประชาชนจำนวนมากได้พร้อมที่จะยอมรับกับการมีผู้นำทั้งสองแบบและพระมหากรุณาธิคุณควรควบคู่กันไป สุดท้ายแล้วสังคมไทยที่ขึ้นหน้าขึ้นตาไปด้วยความเป็นเจ้าระเบียบก็เต็มไปด้วยอำนาจและอิทธิพลทุกรูปแบบ พวกเจ้าระเบียบอาจไม่ชอบใจกับการนำเอาความเชื่อทางพุทธศาสตร์ ผสมกับลัทธิบริโภคนิยม ซึ่งเป็นค่านิยมของไทย แต่คนไทยส่วนใหญ่ฉลองได้หลายวิถีทาง ที่อำนาจและผู้มีอำนาจจะแสดงได้ ในประเทศที่ยอมรับวัฒนธรรมต่างๆ ความทันสมัยของทักษิณจะผสมกลมกลืนกับประเพณีราชวงศ์ได้อย่างง่ายดาย

แต่ศักดินาของไทยค่อนข้างขาดวิสัยทัศน์ ในมุมมองของโลกรอบๆตัวของพวกนี้ สำหรับพวกเขาแล้วการได้คุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จมาเนิ่นนาน พวกเขาเห็นว่าอำนาจเป็นการแข่งขันที่ปิดประตูแพ้ การสนับสนุนจากคะแนนเลือกตั้งที่ล้นหลาม และความชื่นชมจากคนยากจนในชนบทที่ทักษิณได้รับ เป็นการคุกคามต่อพระบรมเดชานุภาพอันประเสริฐยิ่งของกษัตริย์ จะต้องมีการจัดการอะไรสักอย่าง และการทำรัฐประหารในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ จึงเป็นคำตอบของพวกนี้

ทักษิณยังไม่ได้แฉหลักฐานรายละเอียดให้หมดเปลือกว่าองคมนตรีเปรม และสุรยุทธ์ได้วางแผนทำลายเขาอย่างไร ไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไปแล้วว่าการทำรัฐประหารปี ๒๕๔๙ นั้นได้รับการเห็นชอบอย่างเต็มที่จากราชวงศ์ ผู้บงการตัดสินใจที่จะผูกโบว์สีเหลืองรอบลำกล้องปืนติดรถถัง และเคลื่อนออกสู่ท้องถนนในกรุงเทพ และบังคับให้ทักษิณต้องออกจากตำแหน่งและลี้ภัยอยู่นอกประเทศ สีเหลืองเป็นสีของกษัตริย์ การใช้โบว์เหลืองเป็นแผนระยะสั้นที่จะดึงเสียงสนับสนุนในกรุงเทพ แต่สีที่ใช้ได้ย้อนกลับคืนเข้าสู่ตัวเองอย่างร้ายแรง

ภาพพจน์ของราชวงศ์ที่ให้การสนับสนุนต่อการทำรัฐประหาร เหนือสิ่งอื่นใด ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนาหูทั้งในประเทศและนอกประเทศเกี่ยวกับ วิธีการนำพระราชอำนาจ บุญบารมี และสัญลักษณ์ของวังมาใช้ในการเอากำลังทหารออกมาเพื่อสนับสนุนอำนาจเผด็จการในการเมืองไทยในสมัยใหม่นี้ การเฉลิมฉลองอย่างล้นเหลือในวันคล้ายวันประสูติของกษัตริย์ในปี ๒๕๕๐ ไม่ได้ทำให้เรื่องการทำรัฐประหารและเหตุการณ์หลังจากนั้นเงียบลงไป แต่กลับยิ่งเพิ่มการสนทนาในงานเลี้ยงเกี่ยวกับความกำกวมของราชวงศ์ที่มีต่อประชาธิปไตย

การวิพากษ์วิจารณ์นี้ได้มีมานานพอควร ในปี ๒๕๔๙ พอล แฮนด์ลี่นักข่าวได้เขียนชีวประวัติที่ไม่ได้รับอนุญาตของกษัตริย์ภูมิพล “กษัตริย์ไม่เคยยิ้ม” การค้นคว้าพิเศษนี้ต่อเรื่องการสร้างภาพพจน์ของราชวงศ์ และการเกี่ยวข้องทางการเมืองมาหกทศวรรษของกษัตริย์ ได้ระบายภาพอย่างตรงไปตรงมาของราชวงศ์ ซึ่งคอยหนุนกองทัพให้เข้าไปขัดขวางการเมืองมาโดยตลอด ไม่ต้องสงสัยว่า ”กษัตริย์ไม่เคยยิ้ม” เป็นหนังสือเล่มสำคัญเกี่ยวกับประเทศไทยในทศวรรษที่แล้ว เป็นการเสี่ยงของนักข่าวซึ่งนักวิชาการไม่กล้าแตะ แม้ว่าหนังสือจะถูกแบนในประเทศไทย (จากทักษิณเอง) ก็ยังหาอ่านได้จากการสั่งซื้อออนไลน์จากร้านขายหนังสือ และหาอ่านที่แสกนได้จากทางอินเตอร์เน็ต และได้มีบทแปลไทยไว้ด้วย การแฉราชวงศ์ของแฮนด์ลี่ได้สร้างความฮือฮาอย่างไม่เคยมีมาก่อนในแชทรูมของเว็บบอร์ดต่างๆ และยังคงคุยกันหนาหูอยู่ในทุกวันนี้

ก้าวเล็กๆที่มีความหมายอีกก้าวหนึ่ง ในการถกเถียงอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับราชวงศ์ ก็คือการสัมมนานานาชาติเกี่ยวกับไทยศึกษาที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุงเทพ ในเดือนมกราคม ๒๕๕๑ มีผู้ร่วมการสัมมนามากกว่า ๖๐๐ คน เป็นนักวิชาการ นักข่าว และนักศึกษาจากประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ได้มีการเรียกร้องจากนานาชาติให้มีการคว่ำบาตรการสัมมนาในพระราชูปถัมภ์ หลังจากมีการทำรัฐประหารที่มีราชวงศ์สนับสนุน

นักวิชาการอาวุโสต่างๆได้จัดตั้งวิธีการนำเสนออย่างต่อเนื่องในการตรวจสอบบทบาทของราชวงศ์ในปัจจุบัน นักวิชาการต่างๆได้ถกเถียงอย่างเคร่งเครียดในเรื่องผลประโยชน์ของกิจการของราชวงศ์ ความมีประสิทธิภาพจากทฤษฎีการพัฒนาชนบทของกษัตริย์ และกฎหมายปกป้องอย่างเกินควรเพื่อปกป้องชื่อเสียงของราชวงศ์

ช่วงที่ดีที่สุด เมื่อผู้ร่วมสัมมนาถกเถียงเกี่ยวกับหนังสือของแฮนด์ลี่ อาจจะเป็นการหลงตัวเองของนักวิชาการในการแนะว่าการสัมมนาเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับชีวิตคนไทยโดยรวม ได้มีการให้ทั้งการสนับสนุนและกำลังใจสำหรับผู้ที่อยู่ในเมืองไทยซึ่งกำลังจัดการให้มีการถกเถียงกันต่อหน้าสาธารณชนอย่างมีเหตุมีผลเกี่ยวกับอำนาจของราชวงศ์ เป็นการสัมมนาที่มีความสำคัญพอควรที่จะดึงดูดความสนใจจากเจ้าหน้าที่สันติบาลให้เข้ามาร่วมสังเกตการณ์อย่างแข็งขัน

การกระทำที่ขาดความเป็นวิชาการจะได้รับผลตอบแทนที่รุนแรงมากที่สุด และได้สร้างภาพพจน์ในทางลบให้กับกษัตริย์ของไทย ในเดือนธันวาคม ๒๕๔๙ โอลิเว่อร์ จูเฟ่อ ชาวสวิสถูกจับที่เมืองทางตอนเหนือของเชียงใหม่ในข้อหาทำลายรูปภาพของราชวงศ์ เนื่องจากเขาไม่สามารถซื้อเหล้าในวันคล้ายวันประสูติของกษัตริย์ การพ่นสีเป็นการกระทำแบบเด็กๆของจูเฟ่อซึ่งได้ถูกตัดสินจำคุก ๑๐ ปี จากกฎหมายหมิ่นฯที่เข้มงวด เขาได้รับการพระราชทานอภัยโทษหลังจากใช้เวลาเพียงสี่เดือนในคุก แต่ในขณะเดียวกัน คดีได้สร้างกระแสความเจ็บแค้น ทำให้มีการล้อเลียนกษัตริย์ในยูทูป

รัฐบาลไทยได้ตอบโต้โดยการปิดกั้นเว็บไซต์ยูทูปทั้งหมด เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว นักเขียนชาวออสเตรเลีย แฮรี่ นิโคไลเดสถูกจับจากข้อเขียนย่อหน้าเดียวเกี่ยวกับเจ้าฟ้าชาย ในหนังสือที่ขายได้เพียงหยิบมือหนึ่งในประเทศไทย ชะตากรรมของนิโคไลเดสไม่ได้สร้างการวิจารณ์อย่างรุนแรงในออนไลน์เท่ากับคดีของจูเฟ่อ แต่ได้เพิ่มเสียงเรียกร้องจากนานาชาติเกี่ยวกับการใช้กฎหมายที่ตกยุค

เป็นความโชคร้าย อย่างเลี่ยงไม่ได้ ที่ข้อหากฎหมายหมิ่นฯต่อชาวต่างชาติ ได้สร้างความสนใจต่อสื่อต่างชาติเป็นอย่างมาก ในขณะที่ความร้อนระอุทางการเมืองก็มีแต่เพิ่มขึ้น กฎหมายถูกใช้ในการกำจัดเสียงที่ไม่เห็นด้วยในประเทศไทย นักเรียกร้องทางการเมืองสองคนซึ่งได้ให้ความเห็นต่อต้านราชวงศ์ได้ถูกจำคุก คนหนึ่งโดนจำคุก ๖ ปี อีกคนหนึ่งยังรอการพิจารณาคดี ได้มีการออกประกาศจับนักวิชาการจากการที่เขียนหนังสื่อเกี่ยวกับหน้าที่ของกษัตริย์ในการทำรัฐประหารปี ๒๕๔๙

ไม่นานมานี้ มีการกระทำที่ประหลาดที่เกินกว่าเหตุ จากการตัดสินจำคุกสิบปีต่อสุวิชา ท่าค้อ ในข้อหาเผยแพร่ “ภาพตัดต่อทางดิจิตอล” ของกษัตริย์ คดีบีบคั้นแบบนี้ส่งผลให้มีการร้องเรียนจากนักวิชาการนานาชาติมากกว่า ๑๐๐ ท่าน ให้มีการปรับปรุงหรือล้มเลิกกฎหมายหมิ่นฯ รัฐบาลไทยได้ตอบโต้แค่เพียงกล่าวว่า ต่อไปจะทำให้แน่ใจว่ากฎหมายบังคับใช้อย่างเหมาะสม ได้มีการร้องเรียนแม้แต่ในรัฐบาลด้วยกันเองถึงการลงโทษที่รุนแรงเช่นนี้ การแสดงความเห็นของพวกคลั่งเจ้าได้กล่าวหาตามที่เดากันได้ว่า นักวิชาการนานาชาติไม่เข้าใจว่าคนไทยมีความจงรักภักดีอย่างยิ่งยวดต่อกษัตริย์ของพวกเขาเพียงไหน

เหตุผลหนึ่งที่ทำไมรัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยอิหลักอิเหลื่อที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายหมิ่นฯ เพราะรัฐบาลนี้เป็นหนี้บุญคุณกับกองทัพคลั่งเจ้าที่มอบอำนาจให้เขา ปีที่แล้วเสื้อเหลืองได้ออกมาสู่ถนนในกรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพวกที่เรียกตัวว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รณรงค์ล้มรัฐบาลนิยมทักษิณที่ได้รับการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐ ให้เข้ามาบริหารประเทศหลังจากการทำรัฐประหาร “เสื้อเหลือง” ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และดึงดันที่จะกำจัดร่องรอยความเป็นทักษิณให้หมดสิ้นไปจากเวทีการเมือง

เสื้อเหลืองได้เข้ายึดทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลาถึงสามเดือน บุกเข้าสภา และจากนั้น กระทำการยั่วยุระดับขีดสุดด้วยการปิดสนามบินนานาชาติเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แม้ว่าพวกเขาจะเรียกตัวเองว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม แต่พวกเขาแย้งว่าสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ควรมาจากการแต่งตั้งไม่ใช่จากการเลือกตั้ง การรณรงค์ต่อต้านประชาธิปไตยนี้ได้ดำเนินการต่อสู้อย่างหน้าไม่อายภายใต้การอ้างอิงราชวงศ์ เสื้อเหลืองเป็นเครื่องแบบที่เลือก และพระฉายาลักษณ์ของกษัตริย์และราชินีได้ตั้งตระหง่านในการชุมนุมที่เพิ่มการยั่วยุ และประกาศศักดาว่า “เราจะต่อสู้เพื่อกษัตริย์” พวกเขาอ้างว่าเป็นการปกป้องราชวงศ์ต่อนักการเมืองฝ่ายนิยมทักษิณที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง

องค์กษัตริย์เองเลือกที่จะนิ่งเฉยเกี่ยวกับการใช้เครื่องหมายราชวงศ์ในการรณรงค์ของเสื้อเหลือง ความเงียบของพระองค์อาจจะเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ตามความคิดคร่ำครึว่าราชวงศ์ไทยอยู่เหนือการเมือง แต่ความคิดโบราณแบบนี้ได้ถูกทำให้ป่นปี้ เมื่อราชินีทรงปรากฏตัวในงานเผาศพของผู้ประท้วงพันธมิตร ที่ถูกฆ่าในการเผชิญหน้าที่มีความรุนแรงกับตำรวจในต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๑ การแสดงตัวในครั้งเดียวนี้ ราชินีสิริกิติ์ทรงนำสถาบันกษัตริย์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองต่อหน้าสายตาคนทั่วไป ยิ่งเพิ่มข่าวลือว่าเสื้อเหลืองได้รับการหนุนหลัง และมีเส้นสายจากบุคคลระดับสูงสุด ภาพของราชินีที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับอันธพาลทางการเมืองทั้งหลายซึ่งพยายามที่จะขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยให้ออกจากอำนาจ ทำความไม่สบายใจอย่างยิ่งยวดให้กับคนไทยหลายๆคน

ที่สุดรัฐบาลนิยมทักษิณก็ถูกปลดจากตำแหน่ง รัฐบาลถูกทำให้ดูอ่อนแอจากการรณรงค์บนท้องถนนที่ไม่มีที่สิ้นสุด รัฐบาลขาดความน่าเชื่อถือจากการปฏิเสธของกองทัพที่จะบังคับการใช้ พรก.ฉุกเฉิน หรือการกวาดล้างการยึดครองสนามบิน และที่สำคัญที่สุด คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้มีคำสั่งยุบพรรคที่กำลังบริหารประเทศ และ ปลดรัฐบาลที่มีสมาชิก ๒๘ ท่านจากสภา ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๑ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สามารถรวมตัวได้เสียงข้างมากในสภา จากความช่วยเหลือของนักการเมืองย้ายข้างจากพรรคนิยมทักษิณเก่า

ทักษิณกำลังลี้ภัย สมาชิกของเขาได้ถูกบังคับให้ลาออกจากรัฐบาล และเสื้อแดงขณะนี้ได้เผชิญหน้ากับความเกลียดชังของระบบความมั่นคงของประเทศไทย แต่ทักษิณยังคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองในประเทศไทย การออกมา “โฟนอิน” ที่บ่อยขึ้น กระตุ้นความรู้สึกโกรธแค้นต่ออำนาจที่อยู่เบื้องหลังที่บงการการทำรัฐประหารในปี ๒๕๔๙ จนถึงทุกวันนี้ และการเข้ามาบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป้าหมายที่ชัดเจนในการรณรงค์ของทักษิณคือการระบุชื่อองคมนตรี ๒ คน แต่นี่เป็นการบอกเป็นนัยต่อบางอย่างที่มีอำนาจมากกว่า

แม้ว่าทักษิณจะพร่ำประกาศถึงความจงรักภักดีที่มีต่อกษัตริย์ ขณะนี้เขาได้เห็นผลประโยชน์ทางการเมืองในการโจมตีระบบศักดินาอำมาตย์ ผู้กุมอำนาจหลังฉาก และวิธีการซึ่งอำนาจของราชวงศ์ ทั้งของจริงและเป็นนัยถูกนำมาใช้ทำลายระเบียบการเลือกตั้ง ยุทธการในการกระตุ้นให้เสื้อแดงทำการรณรงค์ด้วยเดิมพันสูงต่อต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ แนวความคิดในการปะทะของทักษิณและเสื้อแดงจำนวนมหาศาล ไม่เพียงแต่กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่รวมไปถึงองคมนตรี “สถาบันกษัตริย์” เองในขณะนี้ก็คืบคลานเข้าใกล้กับความร้อนระอุของสงครามการเมืองเข้าไปทุกที

เมื่อควันจางหาย แน่นอนย่อมจะมีความพยายามอย่างที่สุดที่จะจับจีนี่ราชวงศ์กลับเข้าไปสู่ขวดทองตามเดิม ข้อบังคับทางกฎหมายในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับราชวงศ์จะถูกนำมาบังคับใช้ ด้วยความเพลิดเพลินมากขึ้น คนไทยที่กล้าเปิดปากพูดเกี่ยวกับความเป็นจริงทางการเมืองของประเทศจะต้องพบกับความเสี่ยงที่จะถูกลงโทษด้วยกฎหมายอย่างรุนแรง ความคิดเห็นจากนานาชาติที่เรียกร้องให้มีเสรีภาพทางการพูด จะถูกกล่าวหาว่าเอาค่านิยมตะวันตกมาใช้กับความจงรักภักดีที่มีต่อกษัตริย์ไทย แต่ความพยายามที่จะทำให้เกิดความเงียบย่อมไม่ได้ผล เพราะการปิดกั้นการถกเถียงเรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์จะยิ่งทำให้เกิดการรำลือมากขึ้นไปอีก ทั้งเจาะลึก ถกเถียงกัน เดากัน และบางกรณี หมดสิ้นศรัทธา

การโฟนอินครั้งล่าสุดซึ่งจะมีทักษิณหรือไม่ก็ตาม และชะตากรรมในที่สุดของเสื้อแดงจะเป็นอะไรก็ตาม เหตุการณ์เหนือปกติเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา หมายถึงว่า ความเงียบของราชวงศ์ไทยใช้ไม่ได้ผลเสียแล้ว

– แอนดรูว์ วอคเกอร์ และ นิโคลาส ฟาร์เรลลี่ เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ วิทยาลัยเอเชียและแปซิฟิก มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ “นิว แมนดาลา” ในปี ๒๕๔๙ ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับกิจกรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

35 ความเห็น leave one →
  1. วันอังคาร 21 เมษายน 2009 12:49 น.

    อยากให้นำต้นฉบับมาลงด้วยครับ

  2. lukemeedad permalink
    วันพฤหัสบดี 23 เมษายน 2009 00:15 น.

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ
    ประเทศไทยมีปัญหาการเมืองมายาวนาน
    แต่ถูกหมกเม็ด สะกดจิตประชาชนด้วยเรื่องบางอย่างมาเป็นสิบปี
    คงถึงวาระแห่งการเปลี่ยนแปลงแล้วมังครับ

  3. blue whale permalink
    วันพฤหัสบดี 23 เมษายน 2009 02:45 น.

    ต้นฉบับ
    V
    V
    http://inside.org.au/thailands-royal-sub-plot/

  4. bthipman@hotmail.com permalink
    วันพฤหัสบดี 23 เมษายน 2009 10:51 น.

    Thailand needs change

  5. newworld permalink
    วันพฤหัสบดี 23 เมษายน 2009 13:27 น.

    dont cry red people, slowly slowly there the peace love and harmony are waiting for all of you.
    what that you need for now, get up and go for it…fight for true peace and love or stop and do nothing. all the same meaning…this is life.
    what are true… there are fight for business, both side people. MONEY MONEY MONEY. buddha`s teaching who you are what you need to do in daily
    FOOD/AIR and do nothing that all! for living.
    MONEY is WORLD WAR NEVER END… maked you broken! separate side world, country, provice, city, village and family by killing each other… just about the money and money is the king?
    king is the god its this?.
    look around you!!! what you seeing!!!
    or siting and close your eye and look in side you
    WHO YOU ARE?
    freedom its inside you brother~sister
    war its outside you, you think so?
    when you want to outside you need to fight for it. that all about PEACE LOVE & HARMONY

  6. Justice permalink
    วันพุธ 29 เมษายน 2009 15:36 น.

    A great article! The Thais will not have to wait too long for true democracy. I believe a revolution is coming soon.

  7. deedee permalink
    วันพุธ 29 เมษายน 2009 15:43 น.

    Thank you so much for your article. Excellent!!
    I agree with Thaksin, Thailand need changes.
    No more absolute monarchy.

  8. xsparrow permalink
    วันพุธ 29 เมษายน 2009 20:09 น.

    Guys, wake up! stop dreaming.

    What do you want from democracy?

    You cry for democracy, do you really know what exactly what you are looking for?

    if you believe is democracy that means, you believe in majority rules, minority rights. Only rulers allow in the game.
    Ordinary citizen, work hard and pay tax to feed the rulers.

    Have you ever heard of “COMMISSION”?
    Have you ever heard of 30% minimum or no talk?

    Is this a democracy, you are looking for?

    If you are rulers then you may be hunger for power, you cannot wait for slow change. You want immediate bang! – change!

    Don’t let carried away, nothing is as what you are currently.
    Stop dreaming. You may being use as a tool for blood shred and at the end, you die for nothing, being a fool.

    Look, you are being ruled, no matter who rules.
    what good is having change?

    Many people, especially the journalists, are good at telling you what you must have, but do you know what you would like to have? Can few Farangs tell majority THAIs what to look for? Many Farangs acting as they are smarter than us (we are, in their sight, apes). They claim themselves as developed mind, broad mind, civilized, but others are apes.

    I am happy what I am today. I need no change. I have food. My family has home and food. Today no one taken away my liberty. I see no change whoever become premier, they all come from part of the bad politician whom a vote buyer. Can this change make our politic clean? I doubt it.

    • chapter 11 permalink
      วันพฤหัสบดี 30 เมษายน 2009 02:05 น.

      คุณคิดแต่ตัวเองหรือ ครอบครัวสบายมีสุขมีกินมีใช้ไปวันๆหรือ
      แล้วคนจนแบบไม่มีอะไรจะกิน โดยเฉพาะเด็ก ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะใส่ นมผงรู้จักหรือเปล่ายังไม่รู้ เด็กผู้หญิงยังไม่มีโอกาสเป็นนางสาวก็จำต้องขายตัวเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงครอบครัว แล้วอย่าบอกนะว่าเลือกทางของตัวเอง ในเมื่อระบบของคุณ มันเอาแต่มองตัวเองสบายถ่ายเดียว ไม่มีการเผื่อแผ่ ได้ก็คือของตัว

      อยู่ร่วมในสังคม มันต้องมีการเจือจุนกันบ้าง รัฐบาลที่คุณว่ารัฐบาลไหนก็รัฐบาลนั้น ชั่วสกปรกหมด อาจจะใช่ถ้าเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ทุกอย่างปกป้องพวกมีจะกินพวกตัวเอง

      ที่เห็นมาก็รัฐบาลทักษิณ ที่ยังเผื่อแผ่ให้โอกาสคนไม่มีบ้าง อย่างน้อยให้เด็กได้รับการรักษาตามสมควร ได้มีการศึกษา คนเราเมื่อมีการศึกษา หูตามันก็กว้างขี้น

      ไม่ใช่ฝรั่งจะดีกว่า แต่ฝรั่งไม่ต้องมาโดนยัดเยียดล้างสมองว่า ชนชั้นไหนดีกว่าชนชั้นไหน ความคิดมันเลยไปได้กว้างไกลกว่า

      30% หรือ ไม่แปลก แต่นี่ประเทศไทยเราตอนนี้ 0% มิใช่หรือ ไม่ต้องเสีย มีแต่ได้กับได้ มองดูให้ดีๆ

      • xsparrow permalink
        วันเสาร์ 2 พฤษภาคม 2009 22:00 น.

        ผมเข้าใจและศรัทธาในความคิดของคุณ ผมศรัทธาในความเป็นผู้นำของคุณทักษิณ ขอย้ำ คุณทักษิณ แต่ไม่ใช่รัฐบาลทักษิณ และเฉพาะในช่วงการบริหารประเทศในสมัยแรกเท่านั้น แต่ที่โดดเด่นสุดที่ได้ใจของผมไปคือความตั้งใจในการปราบปรามยาเสพติดที่ทำแล้วเห็นผล ซึ่งไม่มีใครกล้าทำ จะด้วยเหตุผลใดก็ตามท่านก็ทำได้ดี
        ถึงแม้จะมีการฆ่าตัดตอนกัน ซึ่งก็เข้าใจว่า มันเป็นเรื่องของการรักตัวกลัวตายของผู้ค้า ผู้มีอิทธิพลซึ่งก็ไม่มีทางได้รู้ว่าใครคือตัวจริง
        ผมและครอบครัวทุกคนถึงจะมีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นๆอีกหลายล้านคน แต่เราก็ต้องทำงานหนักมากๆ เราเชื่อว่าการทำงานหนัก มัธยัส ก็จะมีชีวิตที่สบายในอนาคต
        คุณคิดว่าคนจนทำไมไม่มีโอกาสกับคนอื่นๆเขา ถ้ามิใช่นักการเมืองสกปรกที่คอยกดขี่ เอาเปรียบ แล้วนักการเมืองที่เห็นหัวอยู่ในปัจจุบัน ก็มีอยู่จำนวนมากที่เคยร่วมอยู่กับไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย

        เราเคยหวังให้ประเทศไทยดีขึ้น การเมืองสอาดขึ้น จิตใจของผู้บริหารประเทศจะเผื่อแผ่แผ่ประชาชนมากขึ้น ท้องถิ่นของท่านทั้งหลายต้องดีขึ้น แต่การกระทำแสดงผลออกมาแบบลูบหน้าปะจมูกก็มากมาย ทำเพื่อให้เกิดเป็นนโยบายเพื่อผันเงินเข้ากระเป๋า เป็นการฟอกเงินหรือไม่ครับ แน่นอนโครงการที่ได้ผลดีก็มีให้เห็น เราจึงต้องวางตัวให้เป็นกลาง เพราะผมก็ไม่ได้เชิดชูพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด เพราะเท่าที่เป็นฝ่ายค้านก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน สิ่งที่เราปรารถนาคืออย่าเอาเรื่องเสื้อแดง เสื้อเหลือง การเมืองอันสกปรก แล้วลากเอาสถาบันชาติ และพระมหากษัตริย์มาเป็นเกมของพวกเขา ทำเรื่องต่างๆน่าอับอาย ยั่วยุให้เกิดความแตกแยก แล้วเอาประชาชนผู้รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างมาเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการหักล้าง แล้วสร้างให้เกิดความเข้าใจผิด แตกแยก จนลามไปสร้างความเสืยหายให้แก่สถาบันที่เราเคารพจนยากจะแก้ไขเช่นที่มีบทความต่างๆนานาปรากฏให้เห็นในเวปไซด์
        หลายบทความถึงแม้จะอ่านดูแล้วให้เห็นความเป็นประชาธิปไตยก็ตาม แต่ก็แต้มเติมแต่งให้รู้สึกชังราขวงศ์ มันเป็นสิ่งไม่ถูกต้องแม้แต่น้อย ผมอาจรู้น้อยกว่าเจ้าของบทความ แต่ไม่อาจรับได้กับการที่คนไทยไม่รักแผ่นดินเกิด ไม่แยกแยะชั่วดี เห็นพ้องกับต่างชาติผู้อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญรู้ไปหมด แล้วมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาธิปไตย ผมจึงไม่เข้าใจว่าพวกเขาต้องการประชาธิปไตยอะไร ที่มีอยู่นี้ไม่พอหรือ ต้องการมีมากขนาดไหน มีแล้วจะทำให้คนจนไม่ขายเสียงหรือนักการเมืองจะสะอาดขึ้นมาโดยทันทีหรือ อะไรกันจะเรียกร้องให้วุ่นวายขนาดนั้น จะต้องให้ล้มล้างกันเลยเชียวหรือ ดุแล้วน่าเวทนานัก

  9. หมอผี permalink
    วันพฤหัสบดี 30 เมษายน 2009 14:56 น.

    ปัญญาชนควรกล้าพูดในความจริง

  10. live permalink
    วันจันทร์ 4 พฤษภาคม 2009 19:07 น.

    ท่านอาจะเป็นสิ่งๆๆหนึ่งที่

  11. พัชรพร permalink
    วันอังคาร 5 พฤษภาคม 2009 11:21 น.

    เรารักความยุติรรมและถูกต้องชอบธรรม

  12. Homo erectus permalink
    วันพุธ 6 พฤษภาคม 2009 15:41 น.

    เรารักในหลวง

  13. apple permalink
    วันพฤหัสบดี 7 พฤษภาคม 2009 14:02 น.

    Peaceful??? Fairness??? Where are they??? When can get??? Who will give???

  14. ชัย ไชยเดชา permalink
    วันพฤหัสบดี 7 พฤษภาคม 2009 22:36 น.

    ข้าพเจ้ามีความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เกิดบนผืนแผ่นดินไทย ซึ่งแผ่นดินนี้มีประวัติศาสตร์ที่เราได้รับรู้ถึงบุญคุณของบรรพบุรุษชาติไทยของเรา กว่าที่จะสร้างชาติให้เป็นปึกแผ่น จนมีชาติมีแผ่นดินไว้คุ้มกะลาหัวของเรา ให้เราได้ใช้ทรัพยากรของชาติเพื่อกอบโกยหาประโยชน์ให้ตัวเองมีอาชีพ มีธุรกิจ มีเงินทองไว้ใช้จ่ายจุนเจือครอบครัวอย่างมีความสุข
    ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีของข้าพเจ้าที่บรรพบุรุษของข้าพเจ้าดั้งด้นหนีการเข่นฆ่าในประเทศจีนในสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม แล้วตรึกตรองเป็นอย่างดีว่าประเทศไทยนี้จะเป็นดินแดนที่ท่านสามารถฝากชีวิตของท่านไว้ได้ที่ประเทศไทยอันมีพระมหากษัตริย์ให้พึ่งพระบรมโภธิสมภาร และสามารถสร้างครอบครัว ให้ลูกหลานเจริญรุ่งเรืองสืบไปในอนาคตได้อย่างไม่ต้องกังวล
    ชาติของเรากว่าที่จะมาเป็นแผ่นดินที่เราได้อาศัยให้เกิคความร่มเย็นอยู่ทุกวันนี้หาได้สร้างโดยมือของเราเองไม่ แต่บุญคุณของบรรพบุรุษไทยที่ต้องสละชีพ เลือดเนื้อในการปกป้องการรุกรานของศัตรูที่คอยจะบุกรุกเพื่อยึดเอาชาติไทยของเราไปเป็นของเขา ชาติของเราเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์มาแต่ช้านาน แต่ต้องพบกับการยึดครองและเสียเอกราชไปหลายครั้งหลายครา หาใช่เป็นเพราะเราไม่มีความสามารถในการปกป้องชาติ แต่หากเป็นเพราะความแตกแยกของชนในชาติ และพวกขุนนางที่ฉ้อฉลคิดคดทรยศต่อชาติบ้านเมือง คอยยุยงให้ละเลยต่อหน้าที่ ประจบสอพรอต่างๆนานาเพื่อหวังใช้อำนาจของพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยไม่ห่วงชาติบ้านเมือง และในที่สุดพวกนั้นก็ไม่เคยได้ดีสักคน ตายโดยไม่มีแผ่นดินกลบหน้า
    เมื่อข้าพเจ้าหันกลับามองตนเอง และมองประเทศไทยนยุคนี้ เห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่สำเหนียกในสิ่งที่ได้รับอบรมสั่งสอนมา กลับมองการเพื่อตนเองเป็นที่ตั้ง ใช้ทรัพยากรของชาติแล้วยังเรียกร้องความต้องการไม่รู้จบ เสมือนกับชาติบ้านเมืองนี้เป็นหนี้ต่อพวกเขา มิหนำซ้ำยังเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ฝรั่งตดก็ว่าหอม หลายคนไปร่ำเรียนถึงเมืองนอก(โดยได้รับทุนหลวง)เอาวิชาการมาก็มารุกรานพระมหากษัตริย์ของตนเรียกร้องให้สละพระราชอำนาจ คณะราษฏรบีบบังคับให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงต้องสละพระราชอำนาจ เพื่อไม่ให้เกิดการนองเลือดในแผ่นดิน แล้วพวกคณะราษฏรก็ห้ำหั่นกันเองแย่งอำนาจความเป็นใหญ่ กรรมมันติดจรวด
    ในเวลานี้บ้านเมืองของเราทุกคนก็ปั่นป่วน น่ากังวลใจมิใช่น้อย ข้าพเจ้าได้รับรู้เรื่องราวหลายเรื่องทั้งจากการดูข่าว แต่ก็ไม่ได้เชื่อไปหมดทุกอย่างทั้งที่ผู้สื่อข่าวพยายามยัดเยียดคำพูดถ้อยคำเข้ามาในสมอง ทั้งฝั่งเสื้อแดง เสื้อเหลือง และที่อ้่างว่าเป็นกลาง มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อเรียกร้อให้ท่านไปอยู่กับเขาเป็นพวกของเขา – เป็นของเขา – ทั้งที่ตัวเราก็เป็นตัวเรา แต่ฟังมากๆ กลายเป็นของเขาไปเสียนี่กระไร
    ความน่าวิตกที่ข้าพเจ้ามีความกังวลก็มีอยู่หลายเรื่องด้วยกันเช่น
    1. มีการพยายามที่จะโยงสถาบันกษัตริย์เข้าไปเกี่ยวโบงกับการเมืองไทย โดยมีเจตนาให้สถาบันเกิดความเสื่อมเสียมากที่สุด เพื่อทำให้เกิดความชอบธรรมในการที่จะเปลี่ยนแปลง เป็นความเลวที่แยบยล เป็นการอ้างถึงวิชาการ อ้างถึงประชาธิปไตย (ประชาธิปไตยแบบอเมริกัน-จะเขียนให้อ่านต่อไป) มีความพยายามดึงเอาคนไทยที่อ้างว่าตนเองจน เรียกตนเองว่าคนจน มาเป็นพวก หยิบยกเอาการเปลี่ยนแปลงว่าจะทำให้เหล่าคนจนจะดีขึ้น – (ขอประทานโทษในอเมริกา – ออสเตรเลีย และยุโรป ไม่มีคนจนหรือไงกัน) พวกฝรั่งหัวแดงตาน้ำข้าวมันไม่จนบ้างหรือ ไปดูได้เลย ฝรั่งไร้บ้านซุกหัวนอนในอเมริกามีเป็น สิบๆล้านคน เวลาป่วยไข้ไม่สามารถไปหาหมอ เพราะไม่มีปัญญาจ่าย ไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพไว้เหมือนกัน
    2. มีการใช้ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ (อ้างว่าตนเองรอบรู้ความเป็นมาของพระมหากษัตริย์) อ้างสถาบันของตนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาเขียนเป็นหนังสือบ้าง มาวิจารณ์ลงในอินเตอร์เนตบ้างอาจหาญวิจารณ์พระมหากษัตริย์ที่ข้าพเจ้าเทิดทูนเคารพยิ่ง โดยหวังให้เกิดความแตกแยก อย่างที่บอก มีคนไทยไม่น้อย ชอบดมตดฝรั่ง ยินดีให้ฝรั่งปั่นหัว ฝรั่งเย้วๆว่าไทยมีประชาธิปไตยล้าหลัง พระมหากษัตริย์ของไทยเข้าไปเกี่ยวข้องการเมือง ต้องเปลี่ยนแปลง นี่มันอะไรกัน ประเทศไทยต้องการฝรั่งปกครองหรือ คนไทยไม่มีหัวคิดหรือ เราไม่ต้องการปกครองแบบไทยเพื่อคนไทยโดยคนไทยหรือ ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นยินดีที่จะยกชาติไทยให้ฝรั่งไปทำประโยชน์อย่างเต็มทีโดยขอให้ตนเองอยู่ดีกินดีก็พอ ชาติบ้านเมืองจะย่อยยับก็ไม่สน
    ข้าพเจ้าสลดใจยิ่งนักที่คนไทยพวกนั้นไม่รักชาติ ไม่รักในหลวง ไม่สำนึกในบุญคุณของชาติบ้านเมือง ยินดีเปิดประตูบ้านให้ฝรั่งเข้ามาย่ำยี ขี้รดบ้านเมืองตนเองแล้วยังเทิดทูนความคิดของไอ้ฝรั่งเหล่านั้นว่าประเสริฐเริดหรู เป็นทางสว่างที่ต้องไขว่คว้า รู้แต่ว่าตนได้ประโยชน์คือสิ่งดี การเกื้อกูลไม่มี คิดแต่ตัวกู ของกู ดูเอาเถิดกรรมมันติดจรวดมันมีจริง
    ฝรั่งเขียนหนังสือออกมาหนึ่งเล่ม โดยมีความคิดของตนเองเป็นที่ตั้ง แล้วอ้างอิงมากๆตามหลักการเขียนหนังสือเพื่อให้ดูว่าหนังสือของตนน่าเชื่อถือ แล้วเอามาปั่นให้เกิดสถานการณ์ความต้องการอยากอ่านอยากรู้ ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ และก็อีกแหละมีคนไทยอีกไม่น้อยที่พยายามไขว้คว้าหามาอ่าน เพื่อให้รู้ตามมัน ไม่รู้หรือว่าการทำอย่างนี้มีแต่มันที่รวย และคนไทยที่ซื้อกลับกลายเป็นคนโ_่ เอาเงินไปให้เขามาย่ำยีจิตใจของข้าพเจ้า ถามจริงๆเถอะอ่านแล้วยังไงถ้าโ_่อยู่ก็เกิดอติก็โ_่อยู่นั่นแหละครับ พ่อหลวงของเราสอนเราให้ดำรงชีพอย่างพอเพียงพอแก่ฐานะ คนเราต้องปรับตัวได้ เพราะเราเป็นมนุษย์ มีสติสัปชัญญะตลอดเวลา เราต้องปรับตัวได้ ไม่ต้องไปเอาแบบจากคนอื่นชาติอื่นมาเปรียบเทียบ ฝรั่งกินขนมปังแปรรูปแล้วมีคุณประโยชน์น้อย เราคนไทยกินข้าว (มีความเป็น original) มีคุณประโยชน์มากมาย ฝรั่งมันยังพยายามลักขโมยเอาไปจดลิขสิทธิ์ น่าเกลียดมาก
    ข้าพเจ้าขอประนามบุคคลทั้งหลายทั้งที่เป็นคนไทยขายชาติขายวิญญาณ และเหล่าบรรดาต่างชาติทั้งหลายที่จงใจให้เกิดความแตกแยกในหมู่คนไทย พวกที่ปั่นหัวคนไทยให้ขาคความสามัคคี พวกชอบยั่วยุให้ร้ายทั้งหลาย ให้เหล่าบุคคลทั้งหลายรับรู้ไว้ว่า การกระทำที่ได้ทำไว้ที่ผ่านมา ในปัจจุบัน และการวางแผนใดๆในอนาคตเป็นการกระทำที่เลวร้าย สมควรหยุดกระทำการใดๆทั้งหมดทั้งสิ้นได้แล้ว ข้าพเจ้าพึงเห็นความสมานฉันท์ความสงบกลับสู่ประเทศไทยนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้ใดไม่สำนึกขอให้รู้ไว้ว่ากรรมเวรมีจริงและมันติดจรวด
    ชัย ไชยเดชา

    • chapter 11 permalink
      วันพุธ 13 พฤษภาคม 2009 04:27 น.

      เรียนคุณชัย

      1. อเมริกามีคนประมาณ 300 กว่าล้านคน ทุกคนแม้จะอยู่อย่างผิดกฎหมาย เมื่อเจ็บป่วย โรงพยาบาลของรัฐให้การรักษาเท่าเทียมกันหมด ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ อายุ เพศ หรือสีผิว เพราะ สิทธิในความเป็นคนไงคะ ค่ารักษาก็มาจากภาษี เพราะเขาก็คือส่วนหนึ่งของสังคม เมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้ว จะทิ้งขว้างกันให้เหมือนผักเหมือนปลาได้อย่างไร

      สำหรับประเทศยุโรป สแกนดิเนเวีย เช่นเดียวกัน การรักษาไม่ใช่แค่เพียงแต่ในประเทศ แต่เมื่อคนของเขาต้องมาเจ็บป่วยนอกประเทศ รัฐบาลยังคุ้มครองค่ารักษา

      นโยบายสามสิบบาทรักษาทุกโรคไงคะ ที่ให้โอกาส ให้ชีวิตกับคนไทยที่ด้อยโอกาสมานานแสนนาน

      2. ฝรั่งต่างชาติไม่ได้วิเศษไปกว่าเราคนไทยหรอกค่ะ แต่เพราะความมีวินัย ความเท่าเทียมกันของความเป็นคน และการศึกษาที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้คิด ได้แสดงความเห็นแย้งอย่างมีเหตุผล มีการรักษาผลประโยชน์ในสิ่งที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมาย ที่ไม่ได้เขียนไว้เพื่อพวกเอง

      การโต้แย้งด้วยใช้อารมณ์เหนือเหตุผล จะไปเสนอความเห็นต่อใคร ก็ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะใจที่ปิด และวนเวียนซ้ำซากแต่เรื่องทีตัวเองคิดว่าถูก เหมาะ

      ถ้าคุณจะบอกว่าฝรั่งคิดแต่เรื่องตัวเอง คุณไม่คิดว่าพวกเขาก้ทราบหรือคะ พวกเขาอยู่ร่วมกันร้อยพ่อพันแม่ พวกเขาใช้กฎหมายไงคะ กฎหมายมีการบังคับใช้ มีระบบที่เรียกว่า เลือกตั้งไงคะ 1 คน 1 เสียง ยุติธรรมไม๊

      เรื่องกรรมเวร มีจริงไงคะ แต่ถ้ามันตรงข้ามกับที่คุณหวัง ก็ต้องยอมรับกรรมด้วยเหมือนกันนะคะ

      • ชัย ไชยเดชา permalink
        วันพฤหัสบดี 14 พฤษภาคม 2009 14:21 น.

        ก่อนอื่นผมต้องขอประทานอภัยหากการแสดงความคิดเห็นของผมมันทำให้ผู้อ่านบางท่านขุ่นข้องใจ จะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับอัตตาของแต่ละคน

        ผมเชื่อในความเป็นธรรม ผมก็ทราบว่าประเทศไทยของเราทั้งหลายก็มีประชากรที่มีรายได้หลายระดับ ยากจนข้นแค้น จนถึงมั่งมีจนไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปซุกไว้ที่ไหน ผมก็รู้ว่าคนจนมีมากกว่าคนรวย และผมก็เคารพในสิทธิของความเป็นคน เป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม ผมเคารพในความต้องการของคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นชาวนา เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน ไปถึงพนักงานทำงานในบริษัทข้าราชการในระดับล่างจนถึงระดับกลาง รวมๆแล้วมีมากถึงร้อยละ 65 ของประชากร แน่นอนที่สุดการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาพยาบาล การศึกษา การมีอาชีพทำกิน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีเลิศไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด ในความคิดของผมนั้น ผมว่ามันยังช้าเกินไปที่เพิ่งจะมี ทั้งที่แต่ก่อนที่ผ่านมา เราจะได้เห็นตัวอย่างที่เมื่อในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปยังถิ่นธุรกันดารก็จะมีทีมแพทย์ไปดูแลรักษาประชาชนของท่านเสมอ แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ใส่ใจเรียนรู้ มัวแต่ห่วงเก้าอี้ ห่วงกระเป๋าของตนเองว่าลงทุนไปแล่วจะทำอย่างไรถึงจะได้คืน ซึ่งเป็นแรื่องที่แย่มาก แน่นอนครับว่าเรื่องการจัดให้มีรัฐสวัสดิการในการรักษาพยาบาลของรัฐบาลคุณทักษิณเป็นเรื่องที่ต้องให้เครดิตแก่ท่านไป ไม่มีข้อกังขา เรื่องการปราบปรามยาเสพติดก็เป็นเรื่องเด่นผมชื่นชม มีอีกหลายเรื่องที่คุณทักษิณทำซึ่งเป็นเรื่องเด่นๆ เช่น การสร้างพันธมิตรตลาดยางทำให้ราคาปรับสูงขึ้นทำให้เกษตรกรสวนยางมีรายได้ที่ดีขึ้นมาก แต่จะเป็นการทำเพื่อประชาชนอย่างบริสุทธิ์ใจหรือไม่ก็ต้องมาดูกัน อย่างที่คุณกล่าวมาเรื่องกรรมเวรมีจริง คนดีย่อมตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แต่คนที่คิดคดต่อแผ่นดินอาจตายทั้งเป็น ต้องไม่ลืมว่าแผ่นดินไทยมีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง ผู้มีใจคิดคดมีอันเป็นไป ผู้ที่ถูกใส่ร้ายถึงสิ้นไปก็ยังมีคนสรรเสริญ

        ในความเป็นคนมีวินัย ผมไม่เชื่อในเรื่องวินัยของฝรั่งเสียเท่าไร ผมเห็นมามากต่อมากที่ฝรั่งทำเรื่องใม่ดี กีดกันทางเพศ เหยียดผิว ผมและคุณก็เป็นกลุ่มที่ไม่อยู่ในสายตาของฝรั่ง คุณมีประโยชน์ก็เป็นเพื่อน ไร้่ประโยชน์ก็ห่างๆไว้ ไม่มีเวลามาเสวนามันเสียเวลา ฝรั่งเมื่ออยู่ในประเทศตนก็จะดีหน่อยเพราะเกรงกลัวต่อกฏหมาย แต่เมื่อออกนอกประเทศแล้วคุณคือเหยื่ออันโอชะ กินคุณจนหมดไส้หมดพุงแล้วยังเหยียดหยามคุณ เราได้เห็นมาแล้วในปี 2540 คุณจำไม่ได้หรือ งานนี้มีประเทศไทยโดนเต็มๆ มิหนำซ้ำยังตั้งฉายาของวิกฤติการนี้ให้ซะหรูเลย “โรคต้มยำกุ้ง” น่ายินดีไหม เขาบอกสูตรให้เราเดินตาม ปิดสถาบันการเงิน ปล่อยให้ล้มไป ผู้บริหารสถาบันการเงินมันไม่เก่งต้องจัดการ มาในเวลานี้โรคเดิมย้อนกลับไปเล่นงานเขา แต่เขาบอกว่าปิดสถาบันการเงินไม่ได้ เพราะสถานการณ์มันคนละอย่างกัน แน่นอนครับคนละอย่างกัน ตอนนั้นมันเป็นเงินของเราต้องซ้ำเติมให้หนักจะได้เป๋ไปนานหน่อย แต่ตอนนี้เป็นเงินของเขาขืนปล่อยให้สถาบันการเงินล้มมากๆประชาชนของเขาจะเสียหายประเทศของเขาจะเสียหาย ต้องอุ้มเอาไว้ให้มั่น พิมพ์แบงค์ออกมาเยอะๆ

        ผมจะเพ้อเจ้อให้ฟังเรื่องหนึ่ง ว่าทำใมฝรั่งต้องการเงินของเขาออกสู่ต่างประเทศมากๆ คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณมีเงินดอลล่าร์อยู่ในมือคุณสัก 10,000 เหรียญ ซื้อไว้ตอนที่ 40 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์ มีค่าถึง 400,000 บาท วันหนึ่งประเทศสหรัฐฯ บอกว่า ล้มละลาย chapter 11 ต้องขอฟื้นฟู ไอ้ที่คุณมีอยู่ 40 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์ เหลือค่าแค่ 10 บาท คุณจะทำอย่างไร ลองคิดดูว่า ประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ เอาแค่นี้ มีเงินทุนสำรองอยู่รวมๆกันประมาณ 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หนี้ของสหรัฐฯมีสูงถึง 11.2 ล้านล้านเหรียญ เป็นหนี้ทั่งโลก อย่างนี้มีหรือที่ทั่วโลกจะยอมให้เขาล้มละลาย มันต้องอุ้มชูไว้ อย่างนี้ถ้าเขาจะบีบโดยการสร้างสถานการณ์ทำให้เงินของเขาอ่อนลงก็ไม่ยาก ขึ้นลงวันละ 50 สตางค์ ก็ป่วนไปทั่วทั้งบางแล้ว แล้วอย่างนี้หรือเรียกว่ามีวินัย ทุกวันนี้ทุกประเทศถือเงินสกุลดอลล่าร์ไว้ทั้งนั้น แล้วอย่างนี้ใครถือไพ่เหนือกว่าครับ

        ย้อนกลับไปในอดีต อังกฤษ และฝรั่งเศส ยึดเอาดินแดนฝั่งขวา และดินแดนตอนใต้ของเราไป คุณจะว่าอย่างไร เหตุผลหนึ่งที่ต้องยึดไปเพราะ “กรุงสยามไม่ศิวิลัย” เขาเอาดินแดนไปครอง แล้วยังเหยียดหยาม อย่างนี้ใช่ไหมที่ต้องเชิดชูให้เป็นตัวอย่างให้เราคนไทยเอาเป็นเยี่ยงอย่าง นี่หรือที่เรียกว่า ศิวิลัย เขาต้องโดนอย่างจีนที่ไม่ไว้หน้าอังกฤษเมื่อตอนส่งมอบฮ่องกงคืนสู่จีน แต่ไทยโชคร้ายกว่า

        ในเวลานี้ฝรั่งกำลังหาเหยื่อเพื่อปลุกปั่นให้โลกเกิดโกลาหล มันทำให้ง่ายต่อการเข้ามาหาประโยชน์ ทำให้ประเทศอื่นๆอ่อนแอทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ ทางสังคม มันง่ายต่อพวกเขา ฝรั่งทำอะไรก็ได้เมื่อกระทำต่อต่างประเทศ มันไม่มีความผิด กฏหมายในประเทศไม่สามารถเอาผิดพวกเขาได้ เพราะความเสียหายไม่ได้เกิดในประเทศของเขา มันทำให้พวกเขาชอบแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น การแทรกแซงจะง่ายขึ้นถ้ามีคนในประเทศนั้นๆช่วยเหลือ

        อีกประเด็นหนึ่งที่ผมสังเกตุว่าคนไทยก็ได้รับประชาธิปไตยมาก็หลายสิบปี ก็มีอย่างที่ฝรั่งมี 1คน 1 เสียง แต่ก็ไม่สามารถรักษาสิทธิของตนเองไว้ได้ ถูกนักการเมืองใช้อำนาจเงินทำลายเสียหมด เมื่อการเลือกตั้งครั้งล่าสุดก็ยังไม่วายมีการใช้เงินซื้อเสียง ต้องบอกว่าทุกพรรคการเมืองไม่เว้น เพราะทุกคนต้องการรักษาฐานอำนาจของตนเองไม่ให้เสียไป ก.ก.ต.จับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีผู้รับเงินคนใดกล้าออกมารักษาสิทธิรักษาประชาธิปไตยของตนแม้แต่น้อย แล้วจะมาเรียกร้องหาประชาธิปไตยแบบใหม่หาพระแสงอะไร ผมก็ยังเชื่อว่าการซื้อสิทธิขายเสียงก็ยังคงมีต่อไป แต่…คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าถ้าเปลี่ยนระบอบแล้ว คนจนจะรวย คนรวย คนทำการค้าจะไม่จนลง คนไทยจะใช้สิทธิอย่างภาคภูมิ ไม่ริดรอนสิทธิผู้อื่น นักการเมืองจะเป็นคนดี รักประชาชน ให้ความเคารพต่อเจ้าของสิทธิ

        ผมคิดว่าสิ่งที่ฝรั่ง 2 ท่านนี้นำเสนอไม่มีหลักฐานเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์โดยหยิบประเด็นร้อนคือราชวงศ์มาผูก เพื่อให้มีคนสนใจ เพราะเรื่องปรกติจะไม่มีใครสนใจ ต้องเป็นประเด็นร้อน โดยเฉพาะเกี่ยวกับราชวงศ์ ทำไมต้องปล่อยให้เป็นเรื่องสนุกปากมันไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องเหล่านี้ไม่มีหลักฐานแน่ชัดมันคลุมเครือ กลับกลายเป็นว่าคนไทยจำนวนหนึ่งชอบใจ ผมขอแสดงความเสียใจกับท่านทั้งหลายในโอกาสนี้
        ชัย ไชยเดชา
        14 พฤษภาคม พ.ศ.2552
        แม่น้ำเจ้าพระยา

  15. มาเฟีย GF permalink
    วันเสาร์ 9 พฤษภาคม 2009 09:50 น.

    ถึง คุณชัย ไชยเดชา
    คุณภูมิใจ มันก็เป็นสิทธิ ของคุณ ส่วนสิทธิของคนอื่นก็มีสิทธที่จะรู้สึก วิจารณ์สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่มันแตกต่างไปจากคุณ คุณรับไม่ได้มากกว่าที่มีคนเสนอความเห็น ที่มันแตกต่างไปจากข้อมูล ความรู้ ความร้สึกที่คุณมี จงอย่าลืมว่าคุณปิดกั้นตัวเองได้ และไม่มีใครตอบคุณได้ว่าคุณจะปิดได้นานเท่าไหร่ เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เมื่อถึงจุดที่คุณต้องเปลี่ยน คุณควรมีคำขอโทษ สำนึกผิดที่วิพากคนอื่น ตอนที่คุณยังไม่เปลี่ยนด้วย สถาบันอยู่คู่ประชาชน ดังนั้น อย่าเพ็ดทูลแต่คำว่าสรรเสริญ โดยไม่พึ่งระลึกถึงความเป็นจริง นั่นเท่ากับว่า คุณเป็นประเภทพวก สอพรอ
    การที่ถูกวิจารณ์ คือ กระจกอีกบานที่สะท้อนให้เห็นเงาของตัวเองที่คนอื่นมองมา
    ประเทศไทย มี 60 ล้าน ร้อยพ่อพันแม่ ดังนั้น คุณจงรับสภาพในความคิดต่าง ที่ไม่เหมือน อย่าเอาอำนาจ บาดใหญ่ของตัวเอง ไปตัดสินคนอื่น แต่สามารถวิจารณ์กลับได้ อย่างมีเหตุมีผล ปรับข้อความของคุณลงนิดนึง แล้วคุณจะเป็น มาตรฐานที่ดีอีกความเห็นที่จะมีคน เสียเวลาอ่าน ความเห็นของคุณมากขึ้น

    จากคนที่อยากอ่านทุกความเห็น ที่เขียนได้อย่างมีคุณค่า

    • ชัย ไชยเดชา permalink
      วันอังคาร 12 พฤษภาคม 2009 12:55 น.

      ดีครับที่ได้รับคำวิจารณ์ในข้อความที่ผมได้เขียน และก็ไม่เป็นที่แปลกใจที่จะได้รับคำวิจารณ์ที่ชัดเจนเช่นนี้ ผมไม่อาจเข้าใจในความคิดของคุณได้ ผมไม่รู้จักคุณเป็นการส่วนตัว แต่ข้อความที่คุณเขียนตอบผมมานี้ก็บอกได้ดีว่าคุณไม่ชอบใจในสิ่งที่ผมคิด สำหรับถ้อยคำที่คุณใช้ ผมก็ว่าก็แรง ผมวิจารณ์ในสิ่งที่ผมได้เห็นเป็นหลักฐาน จากบทความที่ถอดแปลมา ไม่ได้วิจารณ์อย่างเลื่อนลอย ผมจึงมั่นใจว่าคุณก็เป็นคนแบบเดียวกับที่คุณเขียนตอบผมนั่นแหละ
      อย่างไรก็ตามก็ต้องขอขอบพระคุณที่กรุณาโต้ตอบมันน่าสนใจมิใช่น้อย

  16. ศิราดา permalink
    วันพุธ 13 พฤษภาคม 2009 02:08 น.

    เห็นด้วยกับคุณชัยอย่างยิ่ง ดิฉันชอบความเห็นของคุณมากค่ะ ตรงใจมากค่ะ

    สำหรับใครที่ชอบดมตดฝรั่งตาน้ำข้าวที่ต้องการแค่จะมาสูบทรัพยากรและเลือดเนี้อของคนไทย ใครที่คิดว่าแนวทางประชาธิปไตยของฝรั่งมันดีกว่าในประเทศไทย ไม่เคยคิดถึงคุณของแผ่นดินเกิด ก็ขอให้ท่านย้ายครอบครัวของท่าน ทั้งตระกูลของท่านออกไปอยู่ ณ ประเทศที่ท่านคิดว่าประชาธิปไตยเขาดี เขาเปิดเสรีทางความคิด ไปหาประโยชน์เลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัวของท่านที่โน่น อย่าได้มาเบียดเบียนหาประโยชน์จากแผ่นดินของบรรพบุรุษชาวไทยที่ท่านเหล่านั้นปกป้องมาให้ไทยเป็นไทยอยู่ได้ทุกวันนี้เลย

    —–ลองคิดดู ทำไมฝรั่งไม่มมีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทั้งภาษา มารยาท ฯแล้วก็ทำไมฝรั่งชอบเหยียดผิว ถ้าเป็นสมัยก่อนทำไมฝรั่งมันชอบไปยึดครองประเทศอื่น(รวมทั้งประเทศไทย แต่เพราะพระมหากษัตย์อีกนั่นแหละไทยถึงรอดมาได้) และนี่เหรอคือประชาธิปไตยของพวกฝรั่งที่ชอบทำตัวเป็นศาลไปตัดสินประเทศโน้นประเทศนี้?

  17. ณัฐกานต์ permalink
    วันพฤหัสบดี 4 มิถุนายน 2009 21:16 น.

    ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นโดยเฉพาะคนที่คิดเห็นเป็นอย่างฝรั่ง เราเคยภาคภูมิใจนักหนาว่าไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของใครสามารถอยู่เป็นเอกราชได้ไม่ต้องถามว่าอยู่ได้เพราะอะไร และที่สำคัญเพราะคนไทยมีใจเป็นไท…ไม่ยอมเป็นทาสใคร แต่ในวันนี้กลับปรากฎว่ามีคนไทยที่ใจใฝ่จะเป็นทาสฝรั่ง ยกย่องเชิดชูฝรั่งยิ่งกว่าบรรพบุรุษของตัวเอง เทิดทูนความคิดว่าถูกต้องทุกอย่างและพร้อมเดินตามก้นฝรั่งด้วยความเต็มใจ น่าสมเพชจริง ๆ เสียดายแผ่นดิน เสียดายทรัพยากรเสียดาย….ที่มีคนเหล่านี้มาเกิดและร่วมใช้แผ่นดินและทรัพยากรของไทย จงไปเถอะไปจากแผ่นดินนี้ ไปสู่ที่ที่ท่านปรารถนา เราจะขออยู่อย่างคนที่ฝรั่ง(บางคน)และคนไทยบางส่วน(น้อยมาก)เหยียดหยามว่าไม่ทันสมัย ล้าหลัง ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ขอมีศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทยอย่างเต็มภาคภูมิ มีประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่ไม่ได้ถือเพียงการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวเป็นหลัก เหมือนที่บางคนพยายามจะบอกว่า “ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง” แต่ฝากให้คิดสักนิดว่า คนไทยที่ไม่รักแผ่นดินเกิด ไม่รักบรรพบุรุษที่รักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้แล้ว เราคนไทยจะเรียกคนเหล่านี้ว่า “คนทรยศต่อชาติ”

  18. dragon permalink
    วันอาทิตย์ 21 มิถุนายน 2009 22:23 น.

    เรียนคุณชัย
    คุณมีความเห็นในแง่ของความมีกตัญญููนั่นเป็นสิ่งที่ดี บรรพบุรุษที่ปกป้องแผ่นดินไทยนั้น มีมากมายแทบจะทุกเชื้อสายในแผ่นดิน และผมก็เชื่อในธรรมข้อหนึ่งคือ กฎแห่งกรรม ไม่ว่าคนผู้นั้นจะรวย จน อยู่ชนชั้นใดก็ตาม ถ้ามีคุณธรรม แห่งสภาวะที่ตนเป็น หรือครองอยู่ ย่อมเป็นกรรมดีที่ท่านได้กระทำ และส่งผลถึงความเจริญรุ่งเรือง ต่ออนาคต ลูกหลาน บริวาร แต่หากเป็นกรรมชั่ว ไม่ว่าประการใดก็ตาม ที่ส่งผลถึงความเดือดร้อนต่อชีวิตของผู้อื่น สักวันก็จะหนีสิ่งที่ทำไว้ไม่พ้น

  19. Roja Kamisa permalink
    วันอาทิตย์ 12 กรกฎาคม 2009 03:34 น.

    Indeed, slaves born to be slaves. It is ridiculous to know that some of educated people try to maintain the status of slaves. whereas most of the Thai people ( the grass root) able to identify the truth.

    It is important to analyze the real history not distorted history before sharing the ideas about the Thai politic. So far, there have been a lot of proofs reflecting the conspiracy of the royal members in conducting coup’. Actually, the family members have continuously done that for a long time whether in Gen. Tanom or Chadchai. In those days, they played the role as the lurkers, not the real players as today.

    As to the point of following the foreigners, most of the royal family members were educated from abroad. These are included king Anan and King Bhumipol who spent a long time lives in Switzerland. The king’s daughter, Ubonrat, used to mary with American guy. However, it does not matter that we follow the western, what matter is the body of knowledge gained from the foreigners must be adapted instead of adopting.

    Most of the Thai people need social justice and liberty. They need to be treated without discrimination.

    • Goo Eng permalink
      วันพฤหัสบดี 1 เมษายน 2010 14:44 น.

      someone is talking with some senses here, wake up all Thais ,it is our rights that these people have taken away from us long enough.

  20. Msr. in your heart permalink
    วันอาทิตย์ 12 กรกฎาคม 2009 18:17 น.

    I have agreed with K. Roja Kamisa. You were known well long thai’s history…

  21. คนไทย permalink
    วันจันทร์ 26 ตุลาคม 2009 12:55 น.

    พวกกบฏแดงไปตายซะ

  22. westpod permalink
    วันพุธ 11 พฤศจิกายน 2009 16:16 น.

    ดีใจที่เกิดบนแผ่นดินไทย แต่เสียใจที่มีเพื่อนร่วมชาติเป็นคนไทย (คลั่ง – ใจแคบ – ดึกดำบรรพ์)

  23. คนหวังดี permalink
    วันอาทิตย์ 31 มกราคม 2010 22:38 น.

    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทยพระองค์ทรงงานเพื่อชาวไทยบุคคลใดที่คิดทรยศต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือไม่จงรักภักดีต่อพระองค์เหมือนกับบุคคลนั้นกำลังดูหมิ่นชาติที่ตนยืนอยู่มีอยู่มีกินจนถึงทุกวันนี้ (ผมขอเป็นกลางไม่ฝ่ายใดถูกและไม่มีฝ่ายใดผิด ) แต่สิ่งที่อยากขอคือขอให้ทำอะไรคิดถึงพระองค์ท่านด้วย

  24. Philips permalink
    วันพฤหัสบดี 1 เมษายน 2010 12:16 น.

    สรุปง่าย ๆ ชะตากรรมของประเทศไม่ควรถูกชี้เป็นชี้ตายโดยคนที่อยู่เหนือกฏหมายไม่กี่คน

  25. josephine permalink
    วันเสาร์ 24 เมษายน 2010 22:40 น.

    ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง..

  26. permalink
    วันเสาร์ 19 มิถุนายน 2010 22:41 น.

    ทักษิณปราบย้าบ้ารายย่อย เพื่อบังหน้า พวกท่านก็เชื่อ ตัวใหญ่ๆสมัยปราบว้าแดง ทำไมถึงปล่อยตัวเค้าล่ะ ทั้งเล่าต๋า บังรอน และอีกหลายๆคน มีความโยงใยกับทักษิณแบบชัดเจน ถามกองกำลังพ่อขุนผาเมือง ส่วนกองทัพภาคที่3 ดูก็ได้ถ้าไม่เชื่อ ผมละอายแทนจริงๆ พวกคุณคงอยู่แต่ตึกสูงคอนโด หรืออยู่ต่างประเทศ เลยได้บารมีทักษิณมากไป แต่คุณไม่ได้ขึ้นเขา นอนป่า เพื่อปราบปรามยาบ้าตามแนวชายแดน แม้แต่แม่ทัพยังไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องรอคำสั่งจากทักษิณในการจับปราบปรามตัวใหญ่ของว้าแดง…..นี่หรือคนที่คุณเลือกมาเป็นผู้นำ ผมยอมตายในหน้าที่ดีกว่าครับ ไม่มีทางรับใช้มนุษย์นรกแบบทักษิณเด็ดขาด

  27. รักษ์ในหลวง 292 permalink
    วันพุธ 13 กรกฎาคม 2011 08:37 น.

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดไป

  28. ตอบคุณ พัชรพร permalink
    วันเสาร์ 23 กรกฎาคม 2011 17:19 น.

    กรรมใดที่ใครก่อ ถึงจะแอบทำถ้าเป็นกรรมดี ก็ย่อมได้ดี

    ตรงกันข้ามนั้นหากเป็นกรรมชั่ว ถึงจะแอบทำ ความชั่วนั้นต้องวิ่งเข้าหาตัวอย่างแน่นอน….

  29. รักษ์ในหลวง 292 permalink
    วันพฤหัสบดี 4 สิงหาคม 2011 08:42 น.

    ขอบารมีทั้งหลายรวมใจและศรัทธา ให้พระองค์มีสุขภาพแข็งแรงด้วยเทอญ

ใส่ความเห็น