ข้ามไปยังเนื้อหา

กรุงเทพถึงทางตัน?

วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010

Bangkok: how did it come to this?
Andrew Walker and Nicholas Farrelly
18 พฤษภาคม 2553
ที่มา – ประชาไท

ความล้มเหลวในการตอบรับข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ชี้ให้ความเสื่อมศรัทธาที่ลงท้ายด้วยหายนะแห่งชีวิต

อัพเดท เย็นวันพุธที่ 19 พฤษภาคม

เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดงเข้าเมืองเมื่อวันที่ 12 มีนาคม หลายคนเชื่อว่า การชุมนุมนั้นคงจบลงในเวลาไม่กี่วัน หรืออย่างมากคงสลายตัวลงในเวลาไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ในการประท้วงครั้งนั้นมีมวลชนเข้าร่วมมากเป็นประวัติการณ์ของการชุมนุมที่ชาวกรุงเทพฯเคยประจักษ์

อย่างไรก็ดีการชุมนุมนี้ไม่ได้สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นเท่าที่ควรเป็น ทั้งนี้เพราะความมั่นใจที่สูงเกินไปของแกนนำที่ทำนายว่าจะมีชาวต่างจังหวัด หลั่งไหลเข้ามาร่วมถึงหนึ่งล้านคน หลังความอัปยศเดือนเมษา 2552/2009 เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดงบุกเข้าไปกลางงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ พัทยา ได้กลายเป็นการปะทะกันบนท้องถนนและการถอนตัวซมซานออกจากกรุงเทพฯ หลายคนคิดหรือหวังว่า กลุ่มเสื้อแดงจะพอใจกับการได้แสดงแสนยานุภาพในเวลาอันสั้นถึงจำนวนผู้สนับสนุนของตน

การณ์กลับไม่เป็นดั่งที่คิด เมื่อผู้ประท้วงเสื้อแดงแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุงและ ความยืดหยุ่นอย่างสูงในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ การประท้วงครั้งนี้ทำให้กรุงเทพฯเป็นอัมพาตมากว่าสองเดือน ราวปลายมีนาคม ผู้ประท้วงสามารถกดดันให้นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าสู่การเจรจา แต่การเจรจานี้เป็นอันต้องยุติไปเมื่อผู้ประท้วงมีข้อเรียกร้องเพิ่มเติม เมื่อเห็นว่านายกรัฐมนตรีเริ่มอ่อนข้อ

เป็นที่เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มผู้ประท้วงสามารถต้านทานการล้อมปราบในวันที่ 10 เมษายน ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตของผู้ประท้วง 21 ราย โดยผู้เสียชีวิตเหล่านี้บางคนถูกยิงที่ศรีษะจนถึงแก่ความตายโดยพลซุ่มยิงที่ ไม่ใครเห็นตัว สำหรับฝ่ายกองทัพนั้น ทหารสี่คนเสียชีวิตจากระเบิดที่ดูเหมือนว่า เป้าหมายสำคัญของการทำร้ายก็คือ นายทหารอาวุโส ที่ได้ชื่อว่าเป็นทหารเสื้อพระราชินีของประเทศ วันรุ่งขึ้น ปรากฏภาพแปลกตาของผู้ประท้วงที่กำลังแยกชิ้นส่วนของรถหุ้มเกราะที่ถูกทิ้งไว้โดยกองทหารอ่อนประสบการณ์

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน กระตุ้นให้กลุ่มเสื้อแดงรวมตัวกันเหนียวแน่นยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้การรณรงค์ต่อต้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลายเป็นเรื่องส่วนตัวยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา พื้นที่ประท้วงหลักได้ถูกย้ายมายังใจกลางกรุงเทพฯ ผู้ประท้วงมาปักหลักอยู่ท่ามกลางความตระการตาของศูนย์การค้าสมัยใหม่ อาคารสำนักงาน สถานทูต และโรงพยาบาล จำนวนมวลชนเริ่มมีมากล้นหลาม บรรยากาศที่ชุมนุมปกคลุมไปด้วยเสียงเพลง คำปราศรัยปลุกใจเน้นย้ำถึงจุดหมายสำคัญที่ผู้ประท้วงมีร่วมกัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในวงล้อมของกำแพงยางรถยนต์ที่สอดด้วยไม้รวก ซึ่งผู้ประท้วงทำขึ้นมา และที่ขาดไม่ได้ตามแบบวิถีไทยก็คือ การมีร้านรวงรถเข็น ที่เข้ามาขายอาหาร ขายของที่ระลึกจากการชุมนุม ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดรอบๆ บริเวณ โดยไม่มีใครยี่หระกับคำเตือนของรัฐบาล

สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มเสื้อแดงในการเคลื่อนมวลชนจากส่วนภูมิภาคมายัง เวทีการเมืองระดับชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดีกลุ่มเสื้อแดงนี้ยังไม่สามารถปรับตัวเรื่องการถอนกำลังได้โดย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกรายล้อมด้วยกำลังทหาร จุดนี้ถือเป็นจุดบกพร่องที่ร้ายแรงถึงตาย

ในวันที่ 3 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยื่นข้อเสนอสุดท้าย ได้แก่ แผนความปรองดองแห่งชาติ ประเด็นหลักของข้อเสนอนี้ คือการให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553/2010 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการปกติถึงหนึ่งปี ดูเหมือนว่า เวลาสองสามวันในช่วงนั้นจะมีบรรยากาศของทางออกร่วมกันและสันติภาพ กลุ่มเสื้อแดงใช้เวลาเต็มที่ในการไตร่ตรองข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ ความล่าช้าในการตัดสินใจและตอบข้อเสนอของกลุ่มเสื้อแดงนั้นไม่ได้มาจากความ ไม่ต้องการยอมแพ้ แต่เป็นผลมาจากความต้องการจะลงจากอำนาจของกลุ่มแกนนำเอง

แต่แล้วการเจรจาก็มาถึงทางตัน เมื่อกลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องให้รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง ประเทศ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้รับผิดชอบกับการเสียชีวิตของผู้คนที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน โดยกลุ่มเสื้อแดงต้องการให้นายสุเทพเข้ามอบตัวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของนายสุเทพเอง นอกจากนี้เหล่าแกนนำยังมีความกังวลว่า เรื่องข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้การก่อการร้ายจากทางรัฐบาล ข้อกล่าวหานี้ถือว่ามีความร้ายแรงมาก หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจะต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตเลยทีเดียว

เมื่อกลุ่มเสื้อปฎิเสธที่จะอ่อนข้อ และปราศัยเป็นนัยยะถึงความต้องการระดมมวลชนเพิ่มเติมจากต่างจังหวัด สถานการณ์ได้เริ่มถดถอยลงอย่างรวดเร็ว นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ถอนข้อเสนอเรื่องการจัดการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน และยื่นคำขาดให้กวาดล้างพื้นที่ชุมนุม โดยการส่งทหารเข้าไปในวันที่ 13 พฤษภาคม และซ้ำอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 19 พฤษภาคม

ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าการล้อมปราบของกองทหารจะทำให้แกนนำผู้ประท้วงยอมมอบตัว รายงานจากแหล่งที่น่าเชื่อถือแจ้งว่า มีพลซุ่มยิงของทหารคอยลอบยิงผู้ประท้วง ผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยประทัดยักษ์ ระเบิดเพลิงทำเอง และการเผายางรถยนต์อย่างต่อเนื่อง กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างทำหน้าที่เป็นหน่วยต่อสู้เคลื่อนที่ของเสื้อแดง ในช่วงหนึ่งสามารถจัดตั้งฐานที่มั่นใหม่ในการก่อเหตุโดยการสร้างแนวกั้นที่ ทำจากยางรถยนต์ที่กำลังลุกไหม้ เพื่อก่อกวนกลุ่มทหารในลักษณะสงครามจรยุทธ์กลางเมือง นับเป็นการต่อสู้ที่ไร้แนวรบอันชัดเจน ท่ามกลางผู้ประท้วงทั่วไป ปรากฏมีกลุ่มติดอาวุธลักษณะคล้ายทหารที่มีอาวุธประจำกายเป็นปืนสั้นและ เครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79

ที่มาของกลุ่มติดอาวุธนี้ยังเป็นปริศนา แต่มีสมมุติฐานว่ากลุ่มนี้อาจเป็นทหารแตกแถวที่อยู่ในกองทัพ หรือกลุ่มนิยมเสื้อแดงที่เป็นส่วนหนึ่งกองกำลังจัดตั้งที่เคยถูกใช้เป็น เครื่องมือในการรักษาความสงบของประเทศมาก่อน

แม้กลุ่มเสื้อแดงจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการต้านทานการใช้กำลังของ รัฐ แต่การต่อสู้นี้เป็นการต่อสู้ที่ไม่สมน้ำสมเนื้อ ณ ขณะนี้ ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดคือ ผู้ประท้วง ชาวบ้านที่ถูกลูกหลง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ยอดผู้เสียชีวิตมีที่ทีท่าว่าจะพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่ ส่วนอื่นๆ ของประเทศก็ตกอยู่ภายใต้วิกฤตสงครามระหว่างผู้ร่วมชาติเดียวกัน หลายคนเริ่มสงสัยว่า รายงานยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการนั้นตรงกับความเป็นจริงหรือไม่

เพราะเหตุใดกลุ่มเสื้อแดงจึงไม่ยอมรับเงื่อนไขเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553/2010 ที่นายอภิสิทธิ์เสนอในการเจรจา ในเมื่อสัญญานทุกอย่างบ่งชี้ไปถึงชัยชนะในที่จะได้รับจากการเลือกตั้งครั้ง ใหม่ของพรรคเพื่อไทยพันธมิตรสำคัญของกลุ่มเสื้อแดง

ด้วยเหตุอันใดที่ทำให้กลุ่มเสื้อแดงไม่สามารถอดทนรอไปอีกสองสามเดือน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตน เป็นการรอที่จะรักษาชีวิตไว้ได้อีกหลายชีวิต

ในเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้าจะเกิดข้อเขียนจำนวนมากที่ วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มแกนนำผู้ประท้วงในช่วงระหว่าง อาทิตย์ต้นเดือนพฤษภาคม 2553/2010

มีสัญญาณที่ส่อให้เห็นเค้าความแตกแยกระหว่างกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มปกติ โดยรัฐบาลพยายามชี้ให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับบทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ในการมีส่วนล่มแผนเจรจา ผู้ประท้วงจำนวนไม่น้อยยังมีความจงรักภักดีต่อทักษิณอย่างไม่เสื่อมคลาย และไม่มีข้อสงสัยใดๆ ว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินเพื่อใช้ในการระดมมวลชนจากส่วนภูมิภาคต่างๆ ของประเทศให้มาเข้าร่วมการชุมนุมอันยืดเยื้อ บ้างเชื่อว่า ทักษิณ ต้องการก่อให้เกิดความไม่สงบในประเทศ บ้างก็คิดว่า การที่พรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกหลังการเลือกตั้งใหม่ในเดือน พฤศจิกายนน่าจะเป็นประโยชน์กับในทางการเมืองกับทักษิณมากยิ่งกว่า แต่ที่แน่ๆ หลายเรื่องยังคงปริศนาต่อไป และการหาความกระจ่างในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงยกความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดให้กับนายอภิสิทธิ์ ก็คงจะต้องรอไปจนกว่าควันจากสงครามครั้งนี้จะจางลง

หากจะมีเหตุผลสำคัญใดที่สามารถอธิบายถึงการที่กลุ่มเสื้อแดงปฏิเสธที่จะสลายการชุมนุมและสังเวยข้อโรดแม็ปเพื่อความปรองดองของนายอภิสิทธิ์ให้กับ ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เหตุผลนั้นก็คือ การที่ชาวไทยสิ้นศรัทธากับกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

ข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนพฤศจิกายนของนายอภิสิทธิ์ ดูเหมือนจะเป็นข้อเสนอที่สมเหตุสมผล หรือดูแทบจะเป็นความเอื้อเฟื้อในสายตาของบางคน ทว่าข้อเสนอนี้ก็แทบไม่มีความหมายในประเทศที่ความเคารพต่อการตัดสินใจตาม ระบอบประชาธิปไตยสามารถระเหิดระเหยไปในอากาศ กลุ่มเสื้อแดงไม่จำเป็นจะต้องมีความจำยาวมากจนไม่รู้ว่าข้อเสนอของนาย อภิสิทธิ์นั้นมีเปราะบางเพียงใด เพราะเมื่อสี่ปีที่เพิ่งผ่านมา ในเดือนมีนาคม 2549/2006 หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ประกาศให้มีการเลือกตั้งกระทันหัน หลังต้องเผชิญการประท้วงต่อต้าน พรรคประชาธิปัตย์ได้คว่ำบาตรไม่เข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะรู้ถึง ความปราชัยที่จะได้รับ สุดท้าย พรรคของนายทักษิณ ชนะด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 60 ของผู้มาเลือกตั้ง แต่แล้วผลการเลือกตั้งก็มีอันถูกประกาศให้เป็นโมฆะโดยศาล ด้วยเหตุผลทางเทคนิคอันน่าคลางแคลงใจ

ชัยชนะอีกครั้งของทักษิณ ชินวัตร คือการเลือกตั้งซ้ำที่จัดให้มีขึ้นในช่วงปลายปี 2549/2006 ที่เป็นเหตุให้เกิดรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549/2006 โดยมีเป้าประสงค์เพื่อผลักดันรัฐบาลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์ ที่ชาวไทยเคยพบออกจากอำนาจในการบริหารประเทศ แม้ว่านายอภิสิทธิ์จะกล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่พรรคการเมืองที่นายอภิสิทธิ์เป็นสมาชิกอยู่นั้น ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการโค่นอำนาจรัฐบาลทักษิณในครั้งนั้น แต่ถึงกระนั้นนายอภิสิทธิ์ก็ยังไม่สามารถหาหนทางชนะการเลือกตั้งได้ โดยหลังรัฐประหารได้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2550/2007 ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพันธมิตรของนายทักษิณ ชนะการเลือกตั้ง แต่ขาดจำนวนเสียงอีกเพียงเล็กน้อยที่จะเป็นเสียงข้างมากในสภา

กลุ่มชนชั้นสูงจำนวนมากในกรุงเทพฯไม่สามารถทนยอมรับกับความเป็นจริงที่ เกิดขึ้นนี้ กลุ่มเสื้อเหลืองผู้ต่อต้านทักษิณได้เริ่มออกมาประท้วงรัฐบาลใหม่ที่มีอายุ ได้ไม่กี่เดือน กลุ่มผู้ประท้วงในครั้งนั้นได้บุกไปถึงรัฐสภา และลงเอยด้วยการเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ การชุมนุมเพื่อโค่นล้มรัฐบาลในครั้งนั้นได้รับการหนุนหลังจากพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์นั่นเอง

ท้ายที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ก็สมปรารถนา เมื่อพรรครัฐบาลขณะนั้นถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินสั่งให้ต้องยุบพรรค และด้วยความช่วยเหลือจากอำนาจทางอ้อมของกองทัพ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะและพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาลผสมที่มีเสียงข้างมากในสภา

เมื่อพิจารณาถึงที่มาในการขึ้นสู่อำนาจของนายอภิสิทธิ์แล้ว คงเป็นการยากที่จะให้ฝ่ายเสื้อแดงศรัทธากับข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งของนาย อภิสิทธิ์ บุคคลผู้มีอำนาจในรัฐบาลต่างไม่เต็มใจที่จะยอมรับการตัดสินใจที่เป็นผลมาจาก การเลือกตั้ง เมื่อเป็นเช่นนั้น คงเป็นการยากที่จะให้แกนนำสร้างความมั่นใจกับผู้ประท้วงเสื้อแดงว่า ข้อเสนอในโรดแม็พจะเป็นจริง กอรปกับการแสดงความเป็นปฏิปักษ์อย่างเปิดเผยของกลุ่มเสื้อเหลืองที่มีต่อข้อเสนอ จะให้กลุ่มเสื้อแดงเชื่อได้อย่างไรว่ากลุ่มเสื้อเหลืองจะไม่หาหนทางเข้ามาแทรกแซง?

และถึงแม้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในที่สุด ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสดๆ ร้อนๆ ย้ำเตือนให้เห็นถึงการแทรกแซงในรูปแบบอื่นที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงบนท้องถนน หรือจากระบบตุลาการ เพื่อใช้ล้มกระดานการเลือกตั้ง แล้วจะให้กลุ่มเสื้อแดงที่ถูกตราหน้าว่า เป็นมวลชนรับจ้างวางใจได้อย่างไรว่า จะไม่มีผู้มากล่าวหาว่า คะแนนเสียงของพวกเขาไม่ได้ถูกซื้อด้วยเงินหรือการเมือง จะให้หวังพึ่งราชสำนักมาเป็นผู้รักษาคุณธรรมปกปักษ์กระบวนการเลือกตั้งได้ไหม? แน่ละว่าคงไม่ได้

กลุ่มเสื้อแดงอาจก้าวพลาดอย่างร้ายแรงที่ไม่ยอมรับข้อเสนอเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน แต่การตัดสินใจพลาดของกลุ่มเสื้อแดง เป็นเพียงมิติหนึ่งของปัญหาใหญ่ที่ใหญ่กว่า นั่นคือปัญหาร้ายของแรงของความเสื่อมศรัทธาที่ประเทศไทยมีต่อกระบวนการเลือกตั้ง จึงเป็นช่องให้กลุ่มอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรงหยิบยื่นทางเลือกในการแก้ปัญหาด้วยกำลัง

ยังมีแนวโน้มว่า ความขัดแย้งและการนองเลือดจะดำเนินต่อไป แม้กระทั่งหลังจากการมอบตัวของแกนนำผู้ประท้วงในวันที่ 19 พฤษภาคม การก่อวินาศกรรม การโต้ตอบแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และประท้วงรายย่อยผุดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของประเทศ ความรุนแรงไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดนั้นควรได้รับการประณาม แต่อย่าลืมว่าใครก็ตามที่ดูถูกดูแคลนกลุ่มเสื้อแดงว่าเป็นผู้ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ผู้นั้นก็คือผู้ที่ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับการแสดงออกอย่างสันติของกลุ่มเสื้อแดงในวันเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า

33 ความเห็น leave one →
  1. nhom452 permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 10:26 น.

    ลมสงบช่วง2-3วันนี้เป็นลางบอกเหตุถีงพายุใหญ่

  2. ความจริง permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 10:46 น.

    ไอ้ลิ้นคือหลานเขย ส่วนไอ้มากร์คือลุกเขย 2คนนี้จะทำไรก้อไม่ผิด

    ส่วนคนเสื้อแดงคือคนไพร่ จะตายอีกกี่คนก้อช่าง ไร้ค่าและหน้าโง่

    รัฐและพัทธมิตรเก่งรอบกัด และลิ้น2แฉกและคิดว่าปะชาชนยังโง่

    ไอ้พวกหนักแผ่นดิน

  3. ตามพระราชประสงค์ permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 13:51 น.

    อยากรู้ว่าตกลงมีประชาชนตายตามราชประสงค์กี่คน เน้นแต่ที่ราชประสงค์เท่านั้น

  4. วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 14:16 น.

    ไม่มีความปรองดองใดใดกับฆาตกรเเละพวกตอหลอ วันนี้สะดุดบ้าง ขออย่าได้ท้อเเท้
    วันข้างหน้าประชาชนจะกลับมา ประวัติศาสตร์จะถูกชำระเเละบันทึกใหม่
    ชีวิตคนมีค่ามากกว่าเเท่งปูนเหล่านั้น เมื่อไม่มีความเป็นธรรม ตาต่อตาฟันต่อฟันใจต่อใจ
    ชีวิตต่อชีวิต จิตวิญญาณต่อจิตวิญญาณ ประเทศเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ของ
    พ่อมึงคนเดียว …ไอ้ออฟ พงศ์พัฒน์ วชิรบรรจง ถ้าครอบครัวคุณโดนฆ่าถูกเหยียบย่ำ
    วันนั้นคุณจะสำนึก ดาราตีนไม่ติดดินวันหนึ่งร่วงหล่นลงมาจะถูกตีนประชาชนเหมือน ไอ้ตั้ว

  5. themself permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 15:21 น.

    http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2Iyd3dNVEl3TURRMU13PT0=&sectionid=TURNd05BPT0=&day=TWpBeE1DMHdOQzB5TUE9PQ== โปรดใช้วิจารณยาน

  6. Philips permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 18:25 น.

    มิได้เพียงแค่ กรุงเทพถึงทางตัน

    ราชวงศ์ก็ถึงทางตัน เช่นกัน

    หยุดไม่ได้ที่จะสั่งฆ่าต่อไปเรื่อย ๆ

    ถ้าสั่งให้หยุดฆ่า บัลลังก์และอำนาจก็ตกอยู่ในอันตราย

    เพราะแก๊งค์อำมาตย์อำมหิต กะไอ้พวกพันธมาร มันจ้องล้มบัลลังก์อยู่

    พวกนี้แหละคือพวกล้มเจ้าตัวจริง สามารถข่มขู่เล่นหัวบังคับให้นายบอดนำเกมส์สั่งฆ่าอย่างอำมหิต

  7. รัฐไทยใหม่ permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 19:54 น.

    เหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องหันกลับไปอ่านThe King Never Smile อย่างจริงๆจังๆอีกครั้ง

    หลายเหตุการณ์จะซ้ำรอยประวัติศาสตร์หรือไม่ การตัดสินใจจะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ไปแบบใด

    บางครั้งดูเหมือนถดถอยไปร้อยปี บางครั้งล้ำหน้าไปร้อยปีทีเดียว

    ความมั่นคงของรัฐคืออะไร ราชวงศ์ หรือ กองทัพ หรือ ประชาชน หรือ นายกรัฐมนตรี หรือ กลุ่มทุน

  8. Ouan Dum permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 21:08 น.

    หยุดโกรธ แค้น เถอะครับ พี่น้องครับ
    (แม้ตัวผมเอง ก็เครียดแค้น จนน้ำตาล่วงเหมือนกัน)
    หาวิธีใหม่เถอะครับ ที่ดีกว่ามุ่งจะฆ่ากัน
    การเมือง แก้ด้วยการเมือง
    พวกมันก็ไม่รู้จัก

    ตัวผมเองก็อยากจะเข้าไปร่วมแบบสุดตัว
    แต่กลัวเป็นแค่หมาก หรือ เบี้ยผลประโยชน์
    ของคนบางกลุ่ม
    ไอ้หน้าเหลี่ยม อาจจะยิ้มเพราะฉวยโอกาสความไม่รู้ของคนส่วนใหญ่
    และ สส. ที่แม่งพาคนมาตาย ไม่เห็นจะรับผิดชอบชีวิตใครได้
    ก็หวังแค่ ถ้าชนะ เลือกตั้งคราวหน้าก็ได้ฐานเสียงเพิ่ม

    คนกี่คนในประเทศไทย ที่ได้อ่าน The King Never Smile
    คนกี่คนรู้จัก coup for rich ไอ้เหี้ยเสื้อเหลือง เกิดขึ้นได้
    ใครอยู่เบื้องหลัง …ก็คนกลุ่มเดิม

    การรับรู้แต่ละคน ไม่เหมือนกัน พื้นฐานการศึกษาก็ไม่เหมือนกัน
    ทำไมไม่ใช้โอกาสนี้ค่อย ๆ อธิบายสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ หาวิธีไหนก็ได้
    ช่วยกันคิด ให้คนส่วนใหญ่มีความรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง
    ไม่ใช่ ถูกกำหนดให้เชื่อโดยคนกลุ่มเดิมอีก

    2475 จริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร
    เหตุการณ์ตุลา 16 19 จริง ๆ แล้วใครอยู่เบื้องหลัง
    ตำราเรียนก็ถูกบิดเบือนตั้งแต่ประถม
    โดยคนกลุ่มเดิม

    การโฆษณาชวนชื่อตลอดอายุขัย
    คนส่วนใหญ่รับรู้ ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ ปู่ พ่อ ลูก

    ทำงานเหนื่อย ๆ กับมาก็ดูแต่ละคร ไม่เคยพัฒนาสมอง
    พวกเขาก็ตายแทนได้เหมือนกัน เพราะถูกปลูกฝังมาแต่เกิด
    คนกลุ่มเดิม ต้องการให้เขาโง่อยู่เช่นนั้น

    ศาสนาเองก็ูกครอบงำโดยระบบ เทวราชา อย่างแยบยล
    แม้แต่ศาสนาเอง ก็ถูก ความเชื่อทางพรามณ์ และ ฮินดู
    เข้ามาผสมปนเป จนเละเทะ เพื่ออะไร ก็รับใช้คนกลุ่มเดิม
    จะมีกี่คนที่รู้ว่า พุทธะ แปลว่าอะไร

    จะเอาอะไร กัดกัดไปทำเหี้ยอะไร

    ใครเป็นผู้ได้ผลประโยชน์ ใครเป็นแค่ตัวหมาก
    ยกตัวอย่างเข้าไปซิ เสื้อแดง เสื้อเหลืองแม่งมีมาตั้งแต่สามก๊ก
    ประวัติศาสตร์ก็มีให้เห็น อย่าไปโกรธ หรือทะเลาะกัดกัน
    คนที่รู้ข้อมูลฝังเดียวเป็นแค่เหยื่อ ของผู้ต้องการอำนาจ

    เราแพ้มาตลอด…ผมก็เครียดแค้น และเครียดแค้น
    แต่ถ้าระงับความโกรธไม่ได้ เราก็แพ้อีก และแพ้อีก

  9. NO PEACE BUT WAR permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 21:18 น.

    เรื่องที่แกนนำเสื้อแดงต้องวางเงื่อนไขให้อภิสิทธิ์/สุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องเข้ากระบวนการทางกฎหมายจากเหตุการณ์ฆ่าประชาชน ในวันที่ 10 เม.ย. ถ้าเป็นรัฐบาลทักษิณ/สมัคร/สมชาย จะต้องโดนประนามรุนแรงว่าไม่มีความชอบธรรม โกเต็กลิ้ม/สื่อชั่ว/ทหารเลว/ประธานหอการค้า/อุตสาหกรรม/นักวิชาการกระหรี่/กระบวนการยุติธรรมกระหรี่ ตำรวจ/DSIชั่ว/อัยการชั่ว/ศาลชั่ว/องค์กรอิสระ/สว.แต่งตั้งจากคมช. ถูกชีนำจากมือทีมองไม่เห็น ต้องรีบออกมาประนามและต้องเอาเรื่องทางกฏหมายให้ถึงที่สุด เห็นตัวอย่างได้จากสมัยนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ /พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
    ตรงกันข้าม สื่อนสพ./ฟรีทีวีชั่ว/วิทยุชั่ว ตุลาการ นักวิชาการ/ปชป./ศาลเตี้ย ช่วยกันบิดเบือน สร้างความชอบธรรมให้กับอภิสิทธิ์ นายกฯ ฆาตกรกระหายเลือด ตอนนี้ก็ยัดเยียดอาวุธในวัดและในที่ชุมนุม เริ่มกวาดล้างคนเสื้อแดงอย่างบ้าคลั่ง ให้เจิมศักดิ์/ทนายสมชาย มาให้ข้อมูลจากขาวเป็นดำ จากดำเป็นขาว เช่น คนเสื้อแดง กบถ พวกเผาบ้านเผาเมือง บิดเบือนว่าคนวิ่งหนีลูกกระสุนพยายามเอาชีวิตรอด จะมีปัญญาวิ่งกลับไปเผา Central World/โรงหนังสยามได้
    ถ้าคนเขียนอยู่ในประเทศไทย จะได้รู้จักกับนิสัยโกหกสับปลับของอภิสิทธิ์เป็นอย่างดี ถือว่ามีแบ๊คเป็นทหาร ไม่เคยรักษาสัญญากับพรรคร่วม ทำเอาพรรคร่วมรบ.นำตาตกกี่หน โรดแมบก็เป็นแผนลวงของอภิสิทธิ์
    คนเสื้อแดงจดจำชื่อไว้ ผู้คุมกำลังทหารเลว ปราบประชาชน วันที่ 6 เมษายน 53
    1. พันเอก วราวุธ เฟื่องกล่ำ กรมทหารม้าที่ 5 เกียกกาย มีหน้าที่จับแกนนำ
    2. พันเอก พอ.สมโภชน์ วังแก้ว กรมทหารม้าที่ 1 เกียกกาย
    3. พันเอก บุญเฑียร แก้วคล้อ กรมทหารราบที่ 31 ลพบุรี
    พล.ต. กัมปนาทรุดดิษฐ์ พล.ต. สุรศักดิ์บุญสิทธิ์ เป็นผู้ได้รับคำสั่งจากศอฉ .ให้เข้าทำการ”กระชับพื้นที่”บริเวณราชประสงค์ ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยช่วยกันจดจำชื่อ — นามสกุลของนายทหาร 2 นายรวมถึงทหาร/หมาลอบกัดผูกผ้าพันคอสีส้ม/เขียวอ่อน/สีฟ้าด้วย
    คนเสื้อแดงอาจจะแพ้ครั้งนี้ แต่จะคอยให้มีการเลือกตั้งปลายปี 2554 เรื่องนี้ยังไม่จบล้างแค้น 10 ปี ไม่สาย

  10. วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 21:26 น.

    ความจริงของคนไทยก้อคือ ถูกเหยียบหัวอยู่ทุกคน แต่มีบางคนหันมาพูดกับทุกคนว่า กูดีกว่ามึงๆๆๆๆ…..ทั้งที่โดนตีนเหยียบหัวอยู่…..การปกครองของไทยในสายตาชาวโลกคือระบอบประชาธปไตยฯ แต่ความจริงคือระบอบภายใต้อุ้งตีนและปากกระบอกปืน คนไทยชอบเอาความพอใจของตัวเองไปตัดสินความดีชั่วของคนอื่น ฟังคนอื่นพูดแล้วก้อหูเบาเชื่อเลย ต้องต่อสู้ต่อไปพี่น้องชาวไทย…ประชาชนคือเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เสรีภาพคือหลักชัยของแผ่นดินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ……

  11. YPC permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 21:51 น.

    Don’t close your eyes…the new history book will be create by THAIS!

  12. joojee permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 22:07 น.

    How come…

    Cause..

    ทําทุกอย่างเพื่อรักษาอํานาจ มาแสนตายแสน โหดเหี้ยมบ้าอํานาจทั้งตระกูล

  13. Ouan Dum permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 22:15 น.

    Don’t close your eyes…the new history book will be create by THAIS!

    เห็นด้วยครับ ช่วยกันโหม โฆษณา เหมือนกับกลุ่มเดิมบ้าง
    แต่ของเรา ไม่ได้ให้ชวนเชื่อ หรืองมงาย
    แต่มันคือ ความจริงของชนชาติไทย
    ที่อยู่ใต้อุ้งตีนและปากกระบอกปืน เหยียบหัวอยู่
    ตั้งแต่ ปู่ ถึง พ่อ และพ่อ ถึง ลูก จนกระทั่งหลานเหลน
    มาสร้าง ยุทธศาสตร์ การล้างแค้น กันเถอะ
    โดยปราศจากการขัดแย้งและการนองเลือด

  14. Ouan Dum permalink
    วันเสาร์ 22 พฤษภาคม 2010 22:30 น.

    เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศ
    และคนที่ตายทั้งหลาย
    ไม่ได้มีความรู้เหมือน พวกคุณและผม
    ที่อยู่หน้าจอตอนนี้ ทำอย่างไร ? ดี

    ถ้าทำได้อย่างน้อย ครั้งหน้า
    ถ้าสงครามบ้านแตก เกิดขึ้นอีก
    อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    ไม่หลงเหลือความคิดที่จะอภัยในความขัดแย้ง
    ส่วนต่างความตาย ต้องแบ่งไปถึงพวกคนกลุ่มนั้นบ้าง

    อย่าว่าผมบ้าเลย พิมพ์อยู่คนเดียว
    ผมระบาย ความเครียดแค้นน่ะ
    พ่อกับแม่ผมก็เกือบไม่รอด
    ดีที่เป็นคนพื้นที่ ตอนนี้
    พ่อกับแม่ก็ตระเวณตามงานศพ
    อย่าให้พูดถึงบรรยากาศความเครียดแค้นในงานศพ

    (จะมีซักคนไหมเห็นด้วยกับผม แม่งมีแต่ให้แก้แค้น…)

  15. ว ณ ปากนัง permalink
    วันอาทิตย์ 23 พฤษภาคม 2010 14:48 น.

    *จงอย่าอาย ที่จะบอก กับใครใคร
    ว่าเชิดชู ประชาธิปไตย ใฝ่ศักดิ์ศรี
    อย่าอายใคร ที่จะรัก สิทธิ์เสรี
    อย่าอายใคร ที่อยากมี ความเป็นคน

    *ด้วยหัวใจ สีแดง ที่แกร่งกล้า
    ชูประชาธิปไตย ให้เป็นผล
    แดงคือสี แห่งชาติ ประชาชน
    สีที่มี มงคล ตลอดกาล

    *แผ่นดินนี้ เป็นของ ประชาชน
    ถ้วนทุกคน เท่าเทียม เปี่ยมสร้างศานต์
    ไม่ยอมรับ อำนาจ เผด็จการ
    ที่สร้างทุกข์ รุกราน ผลาญชีวี

    *อย่าอายใคร ที่หัวใจ เป็นสีแดง
    ถึงอับแสง วันนี้ ยังมีศรี
    อย่าสิ้นหวัง พลังใจ ใฝ่เสรี
    สู้เพื่อมี ประชาธิปไตย

  16. kol permalink
    วันอาทิตย์ 23 พฤษภาคม 2010 18:24 น.

    เพราะมีโฆษณาชวนเชื่ออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ให้เราเห็นแต่คุณงามความดีของเขา ความชั่วช้าเลวทรามของเขาชาวบ้านไม่มีได้เห็น มีแต่ปากต่อปาก และเฝ้าคอยสังเกตการณ์ และแล้วที่เขาพูดกันก็เป็นความจริง คริป ข่าวลือ
    สีหน้าที่เปลี่ยนไป ไม่ค่อยออกงาน แต่ยังคงหน้าด้านเช่นเคย

  17. คนไทย permalink
    วันอาทิตย์ 23 พฤษภาคม 2010 19:53 น.

    ประสบการณ์สอนให้รู้ว่า
    ถ้าอยากได้อะไรมา ต้องยื้อแย่ง
    ฉุดกระชากลากดึงให้ถึงแรง
    รวบรวมความกล้าแกร่งไขว่คว้ามา
    ประสบการณ์สอนให้รู้ต่อไป
    เมื่อคิดยื้อแย่งหัวใจมวลประชาจงรู้ว่า
    จะฉุดกระชากลากดึงทั้งน้ำตา
    ถ้าเขาไม่ปรารถนา–
    เอาหัวใจมาก็ไม่มีค่าอะไร..

  18. redlanna permalink
    วันจันทร์ 24 พฤษภาคม 2010 00:13 น.

    ถึงเวลา ปวงประชาชาวไพร่ ต้องจับอาวุธลุกขึ้นสู้ “เหมาเจ๋อตุง”กล่าวว่า พวกเขาจะไม่เจรจากับเรา หากเราไม่มีอาวุธในมือ พวกเขาจะไม่ปราณีเรา หากพวกเรายังต่อสู้อย่างสันติ เรายอมตายเป็นหมื่นเป็นแสน เพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพและประเทศไหม่ ดีกว่า ตายเป็นร้อยเป็นพันแต่ไม่ได้อะไรเลย ถึงเวลาทัพแดงโต้กลับ เรารบพ่ายแบ้มากี่ครั้งไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือใจที่เข้มแข็งที่จะต่อสู้ เราถอยไม่ได้อีกแล้ว

  19. อดีตคนแนวหน้า permalink
    วันจันทร์ 24 พฤษภาคม 2010 07:50 น.

    รอวันฟ้าใส**** แผ่นดินเมืองสยามนี้เป็นของใครจะพูกขาดความรักไว้เป็นของกลุ่มตนนั้นไฉน เห็นเสนอหน้าออก ทีวี ทุกวันแสดงความรักชาติไว้คนเดียว พูดออกมาเหมือนมีความจริงใจแต่การกระทำเหมือนเพชรฆาติคอยจะหาโอกาสตามล้างแค้นฝ่ายตรงข้าม ถ้าประเทศไทยมีผู้นำที่มีวุฒิภาวะทางจิตใจที่ดีงานและบริสุทธิ์แล้วเราคงจะไม่มีการบาดเจ็บล้มตายมากมายเช่นนี้ ครั้งนี้ต้องจารึกไว้เลยว่าใครคือ ฆาตกร ฆาตกร และไอ้ฆาตกร เราคนไทยเมื่อเจ็บแล้วต้องจำพร้อมทั้งข่วยกันประณามอย่าได้ผุดได้เกิดทางการเมืองอีกเลย ประเทศชาติไทยมีประวัติศาสตร์ที่ดีงามไม่เคยกดขี่ข่มเหงรังแกผู้ใด นี่แหละประเทศไทยวันนี้ที่มีสองมาตราฐาน และยังไม่ถึงทางตันถ้าเมื่อถึงเวลาไช้สิทธ์เลือกตั้งก็อย่าเลือกเข้ามาเป็นอันขาด ฟ้าจะได้เปิดเสียที/

  20. wirote permalink
    วันจันทร์ 24 พฤษภาคม 2010 10:39 น.

    Salute to our Red Shirt Heroes !!!!!!

  21. วันจันทร์ 24 พฤษภาคม 2010 20:12 น.

    พี่น้องเสื้อแดงที่เคารพรักทุกท่าน…บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นสมควรแล้วว่า….
    นับแต่นี้ต่อไปถึงเบื้องหน้าอนาคตกาล……………..
    จะไม่มีองค์กรเพื่อประชาธิปไตยองค์กรใด….ยิ่งใหญ่เท่าพวกเราอีกแล้ว
    ถึงแม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง…เรา…..ท้อได้..แต่จะไม่ยอมถอยอีกต่อไป……
    เราจะยิ่งใหญ่เท่าฟ้า…..ชั่วกัลปาวสาน…..

  22. sense permalink
    วันจันทร์ 24 พฤษภาคม 2010 21:14 น.

    ไม่มีวิธีที่ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อเลยเหรอครับ?
    หรือวิธีที่สันติมากกว่านี้

    คานธีกับแมนเดล่าก็แสดงให้เห็นมาแล้ว

  23. ไร้ผู้นำที่ดี permalink
    วันจันทร์ 24 พฤษภาคม 2010 21:24 น.

    ทุกสิ่งต้องมีผู้นำ ไร้พระเจ้าตากสิน ก็ไม่สามารถกู้คืนกรุงศรีจากพม่าได้ ผิดมากที่ทำกันไร้ระเบียบแบบกองโจร

    สงครามเวียตนามเวียตกงยังมีลุงโฮจินมินทร์เลย

  24. Pra-Cha-Dha permalink
    วันอังคาร 25 พฤษภาคม 2010 09:28 น.

    ทางตัน คือ อะไร ; กรุงเทพและประเทศไทยยังไม่ถึงทางตัน ถ้ามันตันเราก็เอาไม้หรือเหล็กทะลวงเข้าไปไม่เห็นยากตรงใหน ประเทศชาติของเราอยู่กันมากี่ร้อยปีแล้วมันก็มีทั้งสุขทั้งทุกขเราก็ทะลุทะลวงแก้ไขกันไป แต่ถ้า “คนที่มีจิตใจตัน(ตำ่)” อันนี้แก้ไขลำบากหน่อย ไม้หรือเหล็กไม่สามารถจะทะลุทะลวงได้และยาก็ไม่สามารถรักษาได้ คนที่มีจิตใจเช่นนี้เป็นคน ” อำมหิตชอบความรุนแรง ” ชอบไช้ความรุนแรงเข่นฆ่าประชาชน เราชาวไทยต้องช่วยกันเอาคนประเภทนี้มาลงโทษไห้ได้ไม่ช้าก็เร็ว และเมื่อถึงวันนั้นจะได้รู้นรกมีจริง ทางตันของกรุงเทพและประเทศชาติจะได้ไม่ตันอีกต่อไป

  25. คนธรรมดา permalink
    วันอังคาร 25 พฤษภาคม 2010 16:55 น.

    ทาง ตันของกรุงเทพ ในทางความคิด คือ…คนกรุงเทพเชื่อรัฐบาล ที่ใช้สื่อข้างเดียว จริงบ้างเท็จบ้าง ใส่ร้ายต่างๆนาๆ จนทำให้พี่น้องคนกรุงเทพ เกียจชัง พี่น้องคนไทยด้วยกันที่ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้….ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย..จริงๆ ….เพื่อจะสร้างความชอบธรรมในการสลายการชุมนุม และ ปิดบังข่าวทางลบของรัฐ มันจะเป็นการสร้างความแตกแยก…กลัวว่า กรุงเทพฯ จะเป็นเหมือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ….แล้วใครจะรับผิดชอบ…อย่าหวังว่า รัฐบาลเด็กน้อยนี้ จะรับผิดชอบ…เลย.ไม่มีทาง..

  26. วันพุธ 26 พฤษภาคม 2010 15:44 น.

    อภิสิทธิ์ เราขอบใจนายมากที่ช่วยให้เราเเละได้รู้ว่าเมืองไทยมันเป็นยังไง คนไพร่มีชีวิตเเละความเป็นอยู่เช่นไร ประชาชนคนจนมีสิทธิ์เเละเสรีภาพเหมือนคนรวยหรือเปล่า ประชาธิปไตย์ของไทย มันเหมือนประชาธิปไตย์ของทั่วโลกมั้ย ถ้าเราได้เป็นนายก เราจะทําให้ประเทศไทย ปลอดคนชั้นสูงเเละชั้นกลาง พวกผู้ดีตีนเเดง ที่วันๆเอาเเต่ดูถูกคนอื่น จะหมดไปจากประเทศ

  27. noi permalink
    วันพุธ 26 พฤษภาคม 2010 17:54 น.

    หากไม่ปิดกระชับราชประสงค์ ตึกรามคงเหมือนเดิมใช่เปล่าพี่
    หากไม่เอาปืนมาไล่ฆ่าประชาชี อยู่ดีดีมี ฤ จะเผาเมือง
    ตึกรามไหม้สิ้นไปสร้างได้นี้ แต่ชีวีที่หายไปใคร่คืนได้
    เพี่ยงเรียกร้องสิ่งถูก แต่ขัดใจ ช่างโหดร้ายฆ่าไพร่ได้ลงคอ
    เพียงเรียกร้องศักดิ์ศรีให้เทียมเท่า ท่านเล่นเอาปืนไล่ฆ่าเหมือนหมูหมา
    ปิดบัญชีเงินทองที่หามา อย่าโทษข้าถ้าสู้ต่อเพื่อชูธรรม

  28. วิหคเหินฟ้า permalink
    วันเสาร์ 29 พฤษภาคม 2010 18:31 น.

    ทางตัน ** วันนี้ไม่ไช่กรุงเทพฯแห่งเดียวที่เป็นทางตัน วันนี้มันตันทั้งประเทศแล้ว ประชาชนชาวรากหญ้า “ไพร่”อยู่บนดินไม่ได้แล้วต้องขุดรูอยู่ ถ้าอยู่บนดินก็โดนตามล้างตามเช็ดอยู่ร่ำไปไม่มีแผ่นดินจะอยู่ นี่แหละการเมืองภาคประชาชนที่เห็นประชาชนชาวรากหญ้า”ไพร่”ที่เรียกร้องประชาธิปไตยเป็นศัตรู ต้องตามล่าตามล้างให้หมด
    ทุกวันนี้ประชาชนทั่วประเทศอยู่อย่างหวาดผวามีความระแวงซึ่งกันและกัน เพราะผู้นำรัฐบาลได้แบ่งแยกการปกครองประเทศเป็นสองมาตราฐาน ” ทั้งด้านนิติรัฐ และนิติธรรม” ไช้วาทะในการดำเนินการทุกกรณีเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองและพวกพ้อง วันนี้พี่น้องประชาชนและชาว”ไพร่”ต้องจดจำไว้ให้ดี เมื่อวันฟ้าใสผ่องอำไพอย่าให้คนจัญไรเข้ามาปกครองแผ่นดิน/

  29. adml permalink
    วันพฤหัสบดี 3 มิถุนายน 2010 09:00 น.

    จงฟังเถิด
    ความยุติธรรมในเมิองไทยของเราที่มีหลายมาตราฐานคือเครี่อง
    พิศูจน์สัจธรรมข้างต้น

  30. adml permalink
    วันพฤหัสบดี 3 มิถุนายน 2010 09:04 น.

    พิษร้ายของชาติคือนัปราชญ์ผู้ชั่วร้าย
    และผู้ปกครองที่กดขึ่คือพิษร้ายแห่งความยุติธรรม
    กรุงเทพจึงมาถึงทางตันเพราะเหตุนี้

  31. วันจันทร์ 20 กันยายน 2010 15:59 น.

    อยากเห็นคนไทยกลับมารักกัน อยากให้บ้านเมืองสงบครับ

    • ไม่ชอบ 2 มาตรฐาน permalink
      วันจันทร์ 20 กันยายน 2010 21:09 น.

      ความต้องการให้เมืองไทยสงบ ก็ต้องมีความยุติธรรมเป็นหลัก กระบวนการยุติธรรมต้องเป็นที่พึ่งได้ของคนในประเทศ ปัจจุบันคุณเห็นว่าศาลทำตัวเป็นที่พึ่งของประชาชนหรือเปล่า เสื้อเหลืองทำผิดไม่ต้องรับโทษ คดีเสื้อแดงรวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม และอยากถามคุณว่าเหตุการณ์ความบาดหมางของคนไทยเริ่มเมื่อใด ขอให้ตอบตามความเป็นจริง ใครเป็นผู้ริเริ่มแยกสีเสื้อก่อน

Trackbacks

  1. กรุงเทพถึงทางตัน? « Thaiuknews's Blog

ส่งความเห็นที่ sense ยกเลิกการตอบ