ทนง: ทักษิณเจ๊งมากที่สุดจากมาบตาพุด

Thanong: Thaksin the big loser from Map Ta Phut ruling
December 04, 2009
ที่มา – Bangkok Pundit
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

ทุกๆครั้งที่ทนง แห่งเนชั่นเขียนความเห็นบรรณาธิการ หรือบทบรรณาธิการ (บทบรรณาธิการของเขามองเห็นได้ง่าย เพราะจะไล่แจกแผนการ หรือทฤษฎีสมคบคิดต่างๆให้ฟรี) บางกอกบัณทิต (บีพี) ต้องคอยอดกลั้นที่จะทำการวิจารณ์ไปแทบทุกครั้ง บีพีหยุดวิจารณ์ทนงไปสักพักหนึ่งแล้ว – อ่านคำวิจารณ์ก่อนหน้านี้ได้จาก ที่นี่ ที่นี่ ที่นี่ ที่นี่ ที่นี่ และ ที่นี่ – เหมือนกับแย่งขนมออกจากมือเด็ก ทนงถือว่าเป็นโคตรเซียนแห่งเจ้าทฤษฎีลับ มองเห็นทุกอย่างว่าเป็นการวางแผนชั่วร้าย และเป็นการวางแผนการลับไปหมด ของทุกๆสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ

บทบรรณาธิการล่าสุด หัวข้อเรื่องว่า “คำตัดสินของศาลเรื่องมาบตาพุด จะทำให้บางคนต้องเจ๊ง” ราวกับว่าได้กินขนมหวาน:

ลองทายซิว่าใครจะเจ๊งมากที่สุดจากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งมีคำสั่งระงับชั่วคราวโครงการ ๖๕ โครงการ ใน ๗๖ โครงการปิโตรเคมิคอล และการอุตสาหกรรม ในมาบตาพุด จ.ระยอง คุณควรจะหาคำตอบได้ในไม่กี่วินาที สักแห่งบนโลกใบนี้ ที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จะรู้สึกได้ว่า ระบบทุนนิยมที่ขับเคลื่อนอย่างเสรีนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคิด

ตรรกะของเขาคือ:

มีการคุยกันในตลาดหุ้นว่า ทักษิณยังคงถือหุ้นใหญ่ในบริษัทพลังงานของไทย โดยเฉพาะ ปตท. และบริษัทลูกทั้งหลาย ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งนายก ทักษิณได้แปรรูป ปตท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำของรัฐให้กลายเป็นบริษัทเอกชน หุ้นปตท.ที่กระทรวงการคลังถือไว้ลดลงเหลือแค่ร้อยละ ๕๐ อย่างรวดเร็ว แม้ว่ากระทรวงการคลังควรถืออย่างน้อยร้อยละ ๗๕ เพื่อให้สินทรัพย์ของปตท.ยังคงอยู่ในมือของสาธารณะ

ปตท. มีข้อตกลงร่วมลงทุนมากกว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ในมาบตาพุด มีการวางแผนที่จะลงทุนในโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ แต่ด้วยคำสั่งศาลจึงต้องชะลอโครงการดังกล่าวนี้ไว้ก่อน

ปตท.เคมิคอล บริษัทในเครือ ปตท. จะได้รับผลกระทบจากแผนการลงทุนของตัวเองในโครงการแยกก๊าซอีเทน ซึ่งจะใช้อีเทนจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติของปตท.มาเป็นวัตถุดิบในการผลิต

จากการคาดการณ์ของหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ รายได้ของปตท. อาจวูบลงถึงร้อยละ ๘ ถ้าการลงทุนในมาบตาพุดต้องช้าไปอีกหนึ่งปี ปตท.เคมิคอลมีการทบทวนประมาณการของกำไรว่า จะลดลงร้อยละ ๑๗ หรือ ๘ บาทต่อหุ้น

ถ้าปตท.ได้กำไร ทักษิณก็จะได้กำไรด้วย ถ้าปตท.ขาดทุน ทักษิณก็จะขาดทุนด้วย

บีพี: คุณไม่ชอบหรือกับคำที่ว่า “มีการคุยกันในตลาดหุ้น” ทนงไม่เสียเวลาที่จะติดตาม – ใครที่ถือหุ้นปตท.มากกว่าร้อยละ ๐.๕๑ บ้าง ตามรายชื่อนี้ ทนงอาจจะมีหุ้นอยู่ด้วยก็ได้ – ปตท. เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และถ้าคุณลงทุนในกองทุนรวม ก็ดูเหมือนคุณจะมีหุ้นในปตท.ไปด้วย – แต่ไม่มีหลักฐานว่ามีส่วนได้ส่วนเสียอะไรนอกจากเพียงถือหุ้นแค่กระจิดริด ทนงทำเพียงแค่ปล่อยข่าวลือที่เขาได้ยินมาเท่านั้น

ถ้าทนงต้องการจริงๆที่จะเขียนบทความเกี่ยวกับบริษัทเดียวกันนี้ ซึ่งออกมาแป้ก บีพีมีเรื่องหนึ่งให้ทนง เรื่องจริง: สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีหุ้นปูนซีเมนต์ไทยร้อยละ ๓๐ เรื่องจริง: ปูนซีเมนต์ไทยมีโครงการที่มาบตาพุด ซึ่งต้องชะงักไปเนื่องจากคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด เรื่องจริง: นับตั้งแต่คำวินิจฉัยของศาล หุ้นของปูนซีเมนต์ไทยตกลงร้อยละ ๗.๒ (เป็นการยากที่จะแสดงตัวเลขให้เห็นในเวลาที่คุณกำลังอ่านนี้ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่ ลองสังเกตหน้าตลาดหลักทรัพย์ดู แล้วคุณจะเห็นแจ้ง) เรื่องจริง: ก่อนการตัดสินสำนักงานทรัพย์สินฯถือหุ้นมูลค่า ๘๔,๖๐๐ ล้านบาท และขณะนี้เหลือมูลค่า ๗๘,๐๐๐ ล้านบาท (ครอบครอง ๓๖๐ ล้านหุ้น ลองคำนวณตัวเลขดูแล้วกัน) เรื่องจริง: มูลค่าลดลง ๕,๙๐๐ ล้านบาท

บีพีต้องขอโทษต่อผู้อ่านเนชั่นที่เสนอเรื่องจริงต่างๆ และที่ได้ชี้ให้เห็นว่า หนึ่งในผู้ที่เจ๊งมากที่สุดตรงข้ามกับข่าวลือที่ปราศจากที่มาที่ไป

ความเห็นต่อมาแบบทนงคนเดิม:

ถ้าปตท.ได้กำไร ทักษิณก็จะได้กำไรด้วย ถ้าปตท.ขาดทุน ทักษิณก็จะขาดทุนด้วย

ควรมีหมายเหตุหน่อยว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในหน่วยงานต่างๆที่สำคัญของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจตั้งแต่เข้ามามีอำนาจเมื่อปีที่แล้ว ฟังดูเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล ผู้บริหารส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับยุคเก่าสมัยทักษิณยังคงบริหารหน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจเกือบทั้งหมด ซึ่งควบคุมไปถึงธนาคารของรัฐ การเงิน การออกกฎระเบียบ และด้านพลังงาน

ผมเดาว่าคงต้องมีสัญญาลับอะไรสักอย่างระหว่างประชาธิปัตย์ และทักษิณ กับการที่ประชาธิปัตย์ไม่แตะต้องห่านของทักษิณที่วางไข่ทองคำ

รอเดี๋ยว รออ่านตอนจบนี้ก่อน:

นอกจากนี้ โหรบางคนในประเทศได้ทายว่า ทักษิณจะสูญเงินทั้งหมด

บีพี: เอาล่ะ เรามีทักษิณ + ทฤษฎีสมคบคิด + เงิน + โหร ความเห็นของบรรณาธิการอย่างทนงคนเดิมของคุณ – เนวิน และสุเทพทำอะไรหรือ คุณถึงได้ไม่เอ่ยถึง (ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสุเทพอาจจะเป็นนายหน้าในการทำสัญญาลับนั่น)