รัฐบาลชักใยอยู่เบื้องหลังราชวงศ์ไทย จากคำกล่าวของอาจารย์ “ที่หนีไป”
Thai monarchy manipulated by govt: ‘Exiled’ professor
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ที่มา – Australian Broadcasting Corp.
แปลและเรียบเรียงโดย – chapter 11
จากสถานการณ์ความมั่นคงในอาฟกานิสถาน จนถึงความเปราะบางของการเมืองในประเทศไทยซึ่งจะเป็นประเทศที่เป็นเจ้าภาพของการประชุมสุดยอดแห่งอาเซียน (ASEAN) ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
การประชุมได้ถูกเลื่อนมาตั้งแต่เดือนธันวาคม เนื่องจากการประท้วงรัฐบาลที่มีการปิดสนามบินแห่งชาติสองแห่งเป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ไทยวางแผนที่หัวหินเพื่อจะใช้กำลังตำรวจ ๓,๐๐๐ นายในการปราบการประท้วง ในขณะเดียวกันเสถียรภาพของรัฐบาลยังคงไม่นิ่ง จากการที่ฝ่ายตรงข้ามได้กล่าวหารัฐบาลว่าใช้ราชวงศ์และกฎหมายหมิ่นในการปิดปากนักวิจารณ์ทั้งหลาย
สัมภาษณ์โดย : เซน แลม
ผู้ถูกสัมภาษณ์: ใจ อึ้งภากรณ์ นักรัฐศาสตร์ไทยผู้ซึ่งต้องหนีไปอังกฤษเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
คลิกฟังเสียงสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษได้ที่นี่
ใจ: ครับ เพราะแท้จริงแล้วผมไม่เชื่อว่าผมจะได้รับการตัดสินที่ยุติธรรม บรรยากาศการเมืองในไทยอยู่ในสภาพคล้ายกับรัฐตำรวจ ศาลลำเอียง ผมคิดว่ารัฐบาลพยายามจะสร้างบรรยากาศแห่งความกลัวบวกกับความพยายามของกองทัพ พวกเขาตั้งเว็บไซต์ขึ้นมาใหม่เพื่อให้คนได้แจ้งเบาะแสซึ่งกันและกัน ติดตามหมายเลข IP ของคนทั้งหลาย แล้วยังติดตามไปถึงบ้าน และจับคนเหล่านั้นเข้าคุกเพียงแค่แสดงความคิดเห็นทางอินเตอร์เน็ต
แลม: งั้นคุณก็ไม่มีความศรัทธาในระบบศาลไทย คุณคิดว่ารัฐบาลของนายกอภิสิทธิ์แทรกแซงการทำงานของระบบศาลไทยหรือ
ใจ: ระบบศาลไทยไม่เคยเป็นอิสระมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จะเอียนเอียงไปทางฝ่ายที่มีอำนาจไม่ว่าจะเป็นยุคทักษิณหรือยุคอภิสิทธิ์นายกคนปัจจุบัน ยุคอภิสิทธิ์นี้มีผู้ที่ร่วมรัฐบาลที่เคยเข้าไปมีส่วนในการยึดสนามบินอย่างผิดกฎหมาย รัฐบาลเข้ามามีอำนาจในขณะนี้ได้ก็เพราะฝีมือของกองทัพ เราจะเห็นว่าสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ย้อนกลับไปสู่ยุคมืดของเผด็จการ เมื่อห้าปีก่อน ประเทศไทยยังมีแสงแห่งความเป็นประชาธิปไตย แต่โชคร้ายที่ไม่เหลือให้เห็นอีกแล้ว
แลม: คุณวางแผนจะอยู่ในอังกฤษนานขนาดไหน
ใจ: ผมได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องหาเสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตย ผมบอกว่าเราต้องมีการสังคายนาการเมืองไทยอย่างจริงจัง เราต้องการรัฐสวัสดิการ และเป็นเรื่องที่โชคร้าย ที่ผมคิดว่าเราต้องก้าวไปสู่ความเป็นสาธารณรัฐอย่างจริงจัง เนื่องจากสถาบันกษัตริย์ขณะนี้เป็นสิ่งกีดขวางความเป็นประชาธิปไตย ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือเป็นความจริงที่ว่าระบอบกษัตริย์ได้ถูกรัฐบาลและกองทัพนำมาใช้เพื่อความชอบธรรมของการกระทำของตัวเอง
แลม: แต่คุณคงไม่ได้หมายถึงว่าระบอบกษัตริย์ไทยควรล้มเลิกไปนะ ผมหมายถึงว่าประเทศไทยตอนนี้คล้ายสาธารณรัฐกลายๆเพราะระบอบกษัตริย์ไทยถึงแม้จะมีอิทธิพล แต่ก็ไม่ได้มีบทบาทในการเมืองไทย
ใจ: นั่นก็คือมุมมองของคนหลายๆคนในประเทศไทย คนจำนวน ๑๖ ล้านคนซึ่งลงคะแนนเสียงให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกว่าระบอบกษัตริย์นั้นอ่อนแอและทำตัวเองให้ตกเป็นร่างทรงของกองทัพบกและพรรคประชาธิปัตย์ อะไรที่เราเห็นขณะนี้ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ระบอบกษัตริย์เป็นเครื่องกีดขวางความมีเสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยในประเทศไทย
แลม: คุณเองก็ไม่ได้เป็นแฟนของกลุ่มเสื้อแดงมิใช่หรือ คุณเชื่อว่าอดีตนายกทักษิณ ชินวัตรไม่น่าจะเป็นผู้กอบกู้ประเทศไทย
ใจ: ผมไม่เชื่อว่าทักษิณจะเป็นผู้ที่จะมากอบกู้ประเทศไทย ผมต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสงครามกับยาเสพติดของเขา ผมต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับคนในภาคใต้ แต่ผมคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวเพียงเพื่อเพราะรักทักษิณ ผมคิดว่าพวกเขาเริ่มมีการจัดตั้งองค์กรและสร้างประชาสังคม ดังนั้น ผมจึงยืนอยู่ข้างกลุ่มคนเสื้อแดงในแง่นี้
แลม: คุณคิดว่ามีอะไรที่จำเป็นจะต้องทำเพื่อให้ประเทศไทยได้เคลื่อนไปข้างหน้า ให้ออกไปจากการประท้วงแบบแก้ลำกันอย่างนี้ ผมหมายถึงว่าบางคนได้พูดว่าประเทศไทยตกอยู่ในภาวะอันตรายแบบบังคลาเทศเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งรัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่าถูกขับไล่ออกไป
ใจ: ผมคิดว่าสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำขณะนี้คือการสร้างประชาสังคมขึ้นมาใหม่ การเคลื่อนไหวของกลุ่มเอ็นจีโอ นักวิชาการในประเทศไทยได้ทำความอัปยศให้ตัวเองโดยการสนับสนุนเผด็จการ ตอนนี้เรามีรัฐบาลซึ่งมาจากฝีมือของกองทัพ เรามีคนที่ไปปิดสนามบินและใช้ความรุนแรงและคนพวกนี้ได้เข้าไปนั่งในคณะรัฐบาลใหม่นี้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการจริงๆคือการสร้างระบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจังในประเทศไทย ให้มีเสรีภาพในการพูด มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเราต้องสร้างความภูมิใจในความเป็นมนุษย์ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เราจะต้องสร้างกลุ่มคนเสื้อแดงให้เป็นพรรคการเมืองที่นอกเหนือจากเพียงแค่รักทักษิณ หรือต้องขี้นอยู่กับนักการเมืองเก่าๆ เราต้องมีการสร้างการเคลื่อนไหวของคนจริงๆ
Thank you !
อ้าวแล้ว!…… มันผิด ก.ม. ข้อไหน???? หา…?!?
ถ้าไม่รู้?……. ก็ ไปให้ศาลท่านตัดสิน…. ซิซซซ..!?!
แล้ว…. ถ้า! ศาลท่านไม่สามารถ…… ให้ความยุติธรรมได้ ละ?
ก็……. ต้องไปพึ่ง ………….ศาลท่านประชาชน ก็แล้วกัน!?!
ไพร่ สยามนคร
7 มิ.ย. 2552
สาน ไทย มีความยุติ ทำ ตาม ธง
อ้ายใจ ไม่กลัวแล้วหนีไปอังกฤตทำไม….มันบอกมันไม่ใช่คนไทย
ทำไมคนไทยจำนวนมาก รักและเชื่อทักษิณในเวลาเพียง 5-6 ปีเท่านั้นน้อยกว่ากรุงรัตนโกสินทร์ 250 ปี ใครรู้ช่วยตอบที
ท่านทักษิณเข้ามา 5-6ปีก็จริง มันเห็นแสงสว่างไง ไปโรงบาลก็ได้รับการต้อนรับดี ไปสถานที่ราชการก็ยิ้มแย้มแจ่มใส (หรือใครจะขัดแย้ง) การได้รับความสะดวกการที่ไม่เสียเวลา การที่ไม่ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ยาบ้าก็น้อย เดินไปไหนก็ไม่ต้องกลัวเหมือนทุกวันนี้ (ใครจะแย้ง) เอาแค่เรื่องง่ายๆเห็นๆ ก็พอ ….เรื่องใครจะปิดสมองปิดหูปิดตา แล้วตัวเองเจริญ ก็ตามสบายนะ
เพราะเขาจับต้องได้ มั้งคะคนเลยรัก… กรุณากลับไปดู Comment ของดิฉันซิคะแล้วจะรู้ว่าทำไมประชาชนถึงเป็นเช่นนี้..ขอย้ำเขาจับต้องได้จริง ๆ..
ที่เงามืดของราชวงค์ในดินแดนแห่งรอยยิ้ม.
ราชวงศ์ไทยเป็นที่สุดของคนไทย และภูมิใจที่ได้เกิดบนพื้นแผ่นดินไทยค่ะ
อย่าได้นำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่าไปยุ่งกับสถาบันและสถาบันก็อย่ามายุ่ง ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เพราะเข้ามายุ่งซึ่งกันและกันเพื่อหวังทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม มันก็เลยยุ่ง
“ใจ: ผมคิดว่าสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำขณะนี้คือการสร้างประชาสังคมขี้นมาใหม่ การเคลื่อนไหวของกลุ่มเอ็นจีโอ นักวิชาการในประเทศไทยได้ทำความอัปยศให้ตัวเองโดยการสนับสนุนเผด็จการ ตอนนี้เรามีรัฐบาลซึ่งมาจากฝีมือของกองทัพ เรามีคนที่ไปปิดสนามบินและใช้ความรุนแรงและคนพวกนี้ได้เข้าไปนั่งในคณะรัฐบาลใหม่นี้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการจริงๆคือการสร้างระบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจังในประเทศไทย ให้มีเสรีภาพในการพูด มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเราต้องสร้างความภูมิใจในความเป็นมนุษย์ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขี้นได้เราจะต้องสร้างกลุ่มคนเสื้อแดงให้เป็นพรรคการเมืองที่นอกเหนือจากเพียงแค่รักทักษิณ หรือต้องขี้นอยู่กับนักการเมืองเก่าๆ เราต้องมีการสร้างการเคลื่อนไหวของคนจริงๆ”
เห็นด้วยกับคุณใจก็ตรงนี้ล่ะนะ
เราคนไทย เรารัก เราเทิดทูน ในหลวงของเรา
ความจงรักภักดีต่อสถาบันอันสูงสุด ถือว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน